นครพนม – พลังศรัทธา นับหมื่น แห่ร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ ยกปลียอดทองคำพระธาตุพนม บูรณะรอบ 45 ปี ใช้ทองคำค่ากว่า 55 ล้านบาท จัดนางรำ 888 ชีวิตอัญเชิญ
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2563 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ตลอดจนเจ้าภาพผู้มีจิตศรัทธา จากธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ บริษัททิพยประกันชีวิต ประชาชน นักท่องเที่ยว พุทธศาสนิกชน ผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ยอดปลีพระธาตุพนมทองคำ และวัตถุมงคลที่ระลึกยอกทองคำหุ้มปลียอดพระธาตุพนม พร้อมอัญเชิญ ปลียอดพระธาตุพนม มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท ขึ้นไปประดิษฐานบนยอดองค์พระธาตุพนม หลังมีการบรณะใหม่ จากเดิม มีการตกแต่งติดด้วยทองคำเปลว ภายหลังจึงได้ทำการหุ้มด้วยทองคำแท้ ซึ่งถือเป็นการบูรณะครั้งแรก ในรอบ 45 ปี หลังมีการบรณะก่อสร้างองค์พระธาตุพนม ขึ้นใหม่ จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์องค์พระธาตุพนมล้ม เมื่อปี 2518 เพื่อให้เกิดความสวยงาม เป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ ปลียอดองค์พระธาตุพนม ดังกล่าว มีความยาว ทั้งหมด 4 เมตร แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ในครั้งนี้ ได้ ทำการบูรณะหุ้มทองคำ จำนวน 2 ส่วน คอส่วนบน กับ ส่วนกลาง รวมน้ำหนักทองคำประมาณ 42 กิโลกรัม คิดมูลค่าเป็นเงิน จำนวน 55,122,600 บาท โดยมี ธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ เป็นเจ้าภาพใหญ่ มี บริษัททิพยประกันชีวิต เป็นเจ้าภาพร่วม ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา ซึ่งยังเหลือส่วนฐานอีกที่ยังรอผู้มีจิตศรัทธาเป็นเจ้าภาพบูรณะหุ้มทองคำ จะต้องใช้ทองคำน้ำหนักประมาณ 37 กิโลกรัม ถือเป็นอานิสงค์อันยิ่งใหญ่ ที่พุทธสาศาสนิกชน ได้ร่วมกันทำบุญ และร่วมพิธีอัญเชิญปลียอดพระธาตุพนม ขึ้นประดิษฐาน ถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า
ขณะเดียวกันในการประกอบพิธี ถือว่าเป็นสิริมงคล และเป็นอานิสงค์อันยิ่งใหญ่ เนื่องจากได้มีการจัดขบวนนางรำ ใส่ชุดพื้นเมืองศรีโคตรบูรณ์ รวม 888 ชีวิต ร่วมในพิธีอัญเชิญ เป็นการรำบูชา บวงสรวง ตามประเพณีความเชื่อ สร้างความสวยงาม ยิ่งใหญ่ตระการตา ก่อนที่จะประกอบพิธีอัญเชิญปลียอดองค์พระธาตุพนม ขึ้นประดิษฐาน บนส่วนยอด โดยก่อนนี้ เมื่อเดือนกันยายน 2562 ทางวัดพระธาตุพนมได้ ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา จัดสร้างยอดอันใหม่ขึ้น ประกอบไปด้วย ยอดน้ำทองคำ มีลักษณะเหมือนหยดน้ำค้าง ประดับด้วยกระดิ่งทองคำ จำนวน 32 ใบ และดอกบัวทองคำ ประดับตกแต่งด้วยเพชร รวมใช้ทองคำในการสร้าง 19 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังได้ทำการปิดทอง และทางสีใหม่ทั้งองค์ เพื่อเป็นพุทธบูชา
สำหรับองค์พระธาตุพนม มีอายุเก่าแก่ 2,500 ปี จากประวัติความเป็นมา ตามตำนานความเชื่อ พระอุรังคนิทาน ระบุไว้ว่า สร้างขึ้น ภายหลัง พระพุทธเจ้าปรินิพาน พระมหากัสสะปะ ผู้เป็นสาวก ได้ร่วมกัน สร้างองค์พระธาตุพนมขึ้น เพี่ออัญเชิญพระอุรังคธาตุ มาประดิษฐาน ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12 -14 หรือในราวปี พ.ศ.8 สมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร กำลังเจริญรุ่งเรือง โดยการนำของพญาเจ้าเมืองทั้ง 5 และพระอรหันต์ 500 องค์ ซึ่งในยุคแรก ได้ก่อสร้างจากดินดิบ เป็นเตาสี่เหลี่ยม ข้างในเป็นโพรงมีประตูทั้ง 4 ด้าน จากนั้นได้มีการบูรณะ ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.500 และทำการบูรณะต่อเนื่องมา รวมถึง 6 ครั้ง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2518 พระธาตุพนมได้พังทลายลง เนื่องจากฐานเก่าแก่ ทำให้เป็นที่ฮือฮา เพราะได้พบเห็นผอบแก้ว บรรจุพระอุรังคธาตุ 8 องค์ ไว้ภายใน และมีการลงเข็มรากสร้างพระธาตุพนมองค์ใหม่ เมื่อปี 2519 เป็นเจดีย์ทรงฐาน 4 เหลี่ยม ความสูง จากพื้นถึงยอดฉัตร 57 เมตร ฐานกว้างด้านละ 12 เมตร ยอดฉัตรเป็นทองคำน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม ภายในได้บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดุกส่วนหน้าอก ของ พระพุทธเจ้า จนกระทั่งมีการบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง ถึงปัจจุบัน
