นครพนม – สภาเกษตร เร่ง สำรวจเสนอเจาะบาดาล โซล่าร์เซลล์ ช่วยเกษตรกร รับมือภัยแล้ง หนุนเลี้ยงปลา ทำเกษตรลดต้นทุน สร้างรายได้ชุมชน
เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2563 ว่าที่ ร.ต.สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ สำนักงานสภาเกษตร พร้อมตัวแทนสื่อมวลชน นำโดย ดร.พิสิษฐ อ้นมา นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ภาค 4 รวมถึงคณะเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม รับทราบปัญหา ของ กลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่ อ.เรณูนคร และ อ.นาแก จ.นครพนม เพื่อตรวจสอบ สภาพปัญหาความเดือดร้อน และการประกอบอาชีพการเกษตร ไปจนถึงปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลหาทางแก้ไข พร้อมผลักดันโครงการ จัดหาแหล่งน้ำขุดเจาะบ่อบาดาล โดยใช้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดต้นทุน ที่จะเป็นการดูแลช่วยเหลือ เกษตรกร แก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในครั้งนี้ ได้ ลงพื้นที่ ไปตรวจเยี่ยม ติดตามการทำอาชีพเกษตร ของกลุ่มเกษตรกร เลี้ยงปลาดุก ส่งออกขาย ซึ่งประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ เดือนละหลายแสนบาท แต่ยังมีปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ที่จะต้อง ขอรับการสนับสนุนจาก ภาครัฐ ให้สามารถมีน้ำใช้ได้ ตลอดปี
ทั้งนี้ ทางด้าน ร.ต.สมพูนทรัพย์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ ครั้ง นี้ได้ ติดตามเยี่ยมชม ผลการดำเนินการของกลุ่ม เกษตรกรต้นแบบ ที่ประสบความสำเร็จ ในเรื่องของการเลี้ยงปลาดุก ส่งขาย และทำการเกษตร ของเกษตรกรบ้านคำผาสุก หมู่ 10 ต.เรณูนคร อ.เรณูนคร จ.นครพนม แต่ยังมีปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ไม่เพียงพอ โดยทาง สภาเกษตรกรแห่งชาติ จึงได้เห็นความสำคัญ ในการผลักดันโครงการ จัดหาแหล่งน้ำใต้ดิน เพื่อให้เพียงพอแก่เกษตรกร ในการทำการเกษตร ซึ่งได้แจ้งให้เกษตรกร ตั้งกลุ่ม ประมาณ 10 ครัวเรือน ไปจนถึงพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 15 ไร่ เพื่อขอสนับสนุนแหล่งน้ำบ่อบาดาล จาก สภาเกษตรกรแห่งชาติ อยู่ระหว่างการ ประสานหารือ ขอสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงพลังงานเข้ามาดำเนินการ ตั้งเป้า 10 จังหวัดภาคอีสาน จะให้มีแหล่งน้ำบ่อใต้ดิน จังหวัดละ 100 บ่อ ในเบื้องต้น ให้กลุ่มเกษตรกร ได้ใช้น้ำในการเกษตร ซึ่งจะเป็นบ่อบาดาลสูบน้ำด้วยโซล่าเซล พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากส่วนใหญ่ บางรายต้องเสียต้นทุนสูบน้ำเดือนละ 4,000 – 5,000 บาท หากใช้พลังงานแสงอาทิตย์จะลดต้นทุนได้ เป็นอย่างดี และจะเป็นการสร้างอาชีพเกษตร สร้างรายได้ ให้ชุมชนมากขึ้น โดยทางเกษตรกรสามารถรวบรวมกลุ่ม ตามแผนที่กำหนด และนำเสนอต่อสภาเกษตรกร ในระดับจังหวัด เพื่อรวมรวมนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ ในปี 2563 ที่จะสามารถสร้างอาชีพ และช่วยเหลือเกษตรกร มีน้ำใช้ตลอดปี
