นครพนม – วันที่ 4 สิงหาคม 2561 สถานการณ์น้ำโขงเพิ่มปริมาณสูงสุดในรอบ 10 ปี ของจังหวัดนครพนม ยังไม่พ้นวิกฤต จากรายงานโครงการชลประทานนครพนม แจ้งว่า ปริมาณน้ำ ในแม่น้ำโขง จากสถานี ตรวจวัด ชุมชนหนองแสงเขตเทศบาลเมืองนครพนม พบว่า ปริมาณน้ำโขงอยู่ที่ระดับ 12.42 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 8 ซม.
ขณะเดียวกันการที่แม่น้ำโขงมีระดับสูง อาจเกิดจากประเทศเพื่อนบ้านปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาสมทบ ซึ่งขณะนี้ลุ้นว่าประเทศลาวจะระบายน้ำจากเขื่อนน้ำเทิน 2 มาหรือไม่ ถ้าปล่อยออกมาก็จะกระทบฝั่งไทย บริเวณพื้นที่จังหวัดนครพนมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประกอบกับเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร ปริมาณน้ำได้ล้นสปิลเวย์แล้ว จึงจำเป็นต้องระบายน้ำลงลำน้ำสาขา ซึ่งจะเกิดผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำในพื้นที่อำเภอนาหว้า ศรีสงคราม ท่าอุเทน ทางการได้แจ้งเตือนให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไปยังที่ปลอดภัยแล้ว
อ.บ้านแพง จ.นครพนม ถือเป็นอีกพื้นที่ สำคัญที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง หลังระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 12.40 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติแค่ประมาณ 60 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำโขงเอ่อล้นตลิ่ง บางจุดมีความสูงระดับน้ำล้นตลิ่ง ประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำเอ่อท่วม บ้านเรือน ของชาวบ้านที่ อยู่ติดกับแม่น้ำโขง รวมถึงพื้นที่การเกษตร เบื้องต้น จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า พื้นที่ อ.บ้านแพง ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำโขงเอ่อล้น เป็นพื้นที่รวม 6 ตำบล มี .ต.บ้านแพง 2.ต.ไผ่ล้อม 3. ต.นางัว 4.ต.หนองแวง 5.ต.โพนทอง 6.ต.นาเข ส่งผลกระทบรวม 49 หมู่บ้าน 600 ครัวเรือน และมีพื้นที่การเกษตร นาข้าวได้รับความเสียหายแล้วกว่า 3,000 ไร่
ขณะเดียวกันทางด้าน นายสมบูรณ์ ชนะหาญ ปลัดอำเภอหัวหน้างานฝ่ายความมั่นคง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ได้ระดม เจ้าหน้าที่ ประสานงานร่วมกับ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน ลงพื้นที่สำรวจให้การช่วยเหลือเร่งด่วน พร้อมนำเรือท้องแบน ลงพื้นที่สำรวจ บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านดอนแพง ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำโขงล้านตลิ่ง ทำให้มีบ้านเรือนของชาวบ้าน ถูกน้ำท่วมขังกว่า 30 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังมีสวนเกษตร ของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ทำการปลูกผลไม้ กล้วย พืชผักการเกษตรเสียหาย กว่า 10 ไร่ โดยพบว่าระดับน้ำโขงยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องมีการเฝ้าระวัง นำเจ้าหน้าที่ไปดูแลช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของ ต่อเนื่อง
