นครพนม – วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ.ต.ต.ภัคพล คุ้มวงศ์ ผบ.ร้อย ตชด.235 ร.ท.นิคม ชินเขว้า ผบ.หมวดเคลื่อนที่เร็วที่ 2 ร้อยเคลื่อนที่ 1 ร.ท.ปานเทพ นิวาสานนท์ ผบ.หมวด บก.ควบคุมที่ 1 ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ศอ.ปส.ชอน.) กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี แถลงถึงการจับกุม ท้าวแสงจัน พมมะจัก อายุ 20 ปี อยู่บ้านแก่งกะเบา เมืองไชยบุรี แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 599 เม็ด และเรือกีบ (เรือหาปลาประจำถิ่น) อีก 1 ลำ
สืบเนื่องจาก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ อยู่บ้านแก่งกะเบา เมืองไชยบุรี ตรงข้ามกับบ้านทรายมูล หมู่ 7 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม นัดหมายนำยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาส่งกันที่ท่าขึ้นลงแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าบริเวณดังกล่าว มีการนัดหมายนำเข้ายาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้านอยู่เป็นประจำ จึงสนธิกำลังร่วมกันวางแผน แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด ซุ่มอยู่ริมถนนสาธารณะในหมู่บ้านทรายมูล ห่างจากท่าขึ้นลงแม่น้ำโขงประมาณ 60 เมตร 1 ชุด ส่วนกำลังที่เหลือรอสนับสนุนอยู่ใกล้เคียง
เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ใช้กล้องส่องทางไกลของหน่วยทหาร เห็นเรือหาปลาติดเครื่องยนต์ แล่นมาจากฝั่งเพื่อนบ้าน เมื่อถึงฝั่งไทยก็เข้าเทียบท่า มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี รูปร่างผอมสูง เดินลงจากเรือมีท่าทีพิรุธ ถือวัตถุบางอย่างมาวางไว้ที่พื้นดิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ชายต้องสงสัยแสดงสีหน้าตกใจ ก่อนจะยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี นำวัตถุดังกล่าวรัดด้วยหนังยางรวมกัน จำนวน 2 มัด ห่อกระดาษสีขาวและพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง แล้วยัดใส่ไว้ในถุงมือดำ ตรวจสอบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงิน และสีชมพู รวม 11 ถุง จำนวน 599 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ธาตุพนม
ท้าวแสงจันสาราภพว่า มีบ้านอยู่ที่แก่งกะเบาตรงข้ามบ้านทรายมูลของไทย ประกอบอาชีพหาปลา โดยมีท้าวนัน(ไม่ทราบนามสกุล) ราษฎรบ้านเดียวกันให้นำยาบ้ามาส่งลูกค้าที่ท่าขึ้นลงบ้านทรายมูล เมื่อนำมาวางแล้วก็จะมีคนมารับช่วงต่อไปเอง เมื่อทำงานสำเร็จกลับมาถึงบ้านท้าวนันจะจ่ายค่าจ้างเป็นเงินไทย 2,000 บาท ขณะสอบปากคำท้าวแสงจันมีอาการคล้ายคนเสพยาเสพติด จึงจับตรวจปัสสาวะผลออกมาเป็นบวก จึงแจ้งข้อหา 1.นำยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย 2.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 3.เป็นบุคคลต่างด้าวฯ หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย 4.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับโทษนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักรไทย มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต
