นครพนม – ทหารพรานยึดยาบ้ากว่า 4 ล้านเม็ด มูลค่า 500 ล้านบาท พบสูตรใหม่กลิ่นกุหลาบ รวบตัวได้ 3 ราย ล่า”นังอ้อย”หัวหน้าแก๊งสายเปย์
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.00 น. หน้าลานกว้างกองร้อยทหารพรานที่ 2110 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี บ้านปากห้วยม่วง หมู่ 2 ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พล.ต. สวราชย์ แสงผล ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.อ.ยงยุทธ ขันทวี ผบ.บก.ควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.อ.สุภัทร ชูตินันทน์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 21 พล.ต.ประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ผบ.มทบ.29 ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อัครเดช อัครสาร ผบ.ร้อย ทหารพรานที่ 2110 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด.23 นายอดุลย ประยูรสิทธิ ผอ.ปปส.ภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยตรวจยึดของกลางยาบ้าล็อตใหญ่ จำนวน 4,086,000 เม็ด และผู้ต้องหา 3 คน คือ นายอนุศร หวังจุมกลาง อายุ 44 ปี บ้านเอื้ออาทร ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสุทธิชัย มาระหน่อ อาย 19 ปี บ้านเลขที่ 157 หมู่ 10 บ้านหนองหอยคำอ้อม ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม และนายจ่อยเพื่อนร่วมแก๊งเยาวชน อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/6 บ้านนาข่าท่า หมู่ 7 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมของกลางรถยนต์กระบะที่ใช้กระทำความผิด 2 คัน มี กระบะยี่ห้อมิตซูมิชิ ไททรัน สีบรอนซ์ ทะเบียน ฒฐ 8560 กทม. และกระบะยี่ห้อมาสด้า สีบรอนซ์ ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งยาบ้าบรรจุห่อมีตราสัญลักษณ์ประกอบด้วยเลขตองเก้า(999) 5 ดาว สีน้ำเงินและสีแดง นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ตัวอักษรวายวัน(W1) สีแดง คาดว่ายาบ้าล็อตนี้ขนลำเลียงมาจากภาคเหนือ กลุ่มชนกลุ่มน้อยว้าแดง ที่มีการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทย หลังถูกเจ้าหน้าที่กดดันปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง จึงใช้เส้นทางใหม่เพื่อเลี่ยงการจับกุมจากภาคเหนือมาเข้าทางภาคอีสาน
ในการตรวจยึดยาบ้าครั้งนี้พบยาบ้าสูตรใหม่ ถือเป็นการพบครั้งแรก มีการบรรจุในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบเปิด-ปิด มีตราหัวม้าเป็นสัญลักษณ์ ตรวจสอบแล้วพบมีความแตกต่างจากยาบ้าที่เคยจับกุม เนื่องจากมีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายดอกกุหลาบหรือดอกมะลิ เชื่อว่าเป็นสูตรใหม่ที่มีคุณภาพ และน่าจะมีราคาแพงกว่าสูตรเดิม รวมมูลค่าของกลางครั้งนี้คิดเป็นเงินซื้อขายตามแนวชายแดนไม่ต่ำกว่าเม็ดละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 500 ล้าน
พล.ต.สวราชย์ แสงผล ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เปิดเผยว่าการจับกุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของกำลังทหารพราน หลังมอบหมายให้ พ.ต.อัครเดช อัครสาร ผบ.ร้อย ทหารพรานที่ 2110 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 ร่วมกับ ร.ต.วันชาติ เหมือนปืน รอง ผบ.ร้อยฯ ลงพื้นที่ติดตามหาข่าวตามแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการปราบปรามลักลอบขนส่งยาเสพติด จนกระทั่งได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่แจ้งเบาะแสให้ข่าวและสืบสวน นำมาสู่การจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดได้
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
นายจ่อยผู้ต้องหาวัย 16 ปี เป็นโจ๋ประจำหมู่บ้านนาข่าท่า เล่าว่าทำหน้าที่ขนยาเสพติดขึ้นรถยนต์ ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 5,000 บาท โดยมีนางสาวอ้อย มีศักดิ์เป็นน้าสาว อายุ 31 ปี เป็นผู้ติดต่อประสานงานทุกอย่าง หลังสำเร็จนางสาวอ้อยก็จะนำเงินสดมาให้ถึงบ้าน
ก่อนถูกจับกุมนางสาวอ้อยโทรศัพท์มาบอกว่า คืนนี้(วันที่ 16 กุมภาพันธ์) เวลา 19.00 น. ไปขนยาบ้าที่ท่าน้ำบ้านนาข่าท่า หมู่ 7 ต.พะทาย ตนพร้อมกับเพื่อนมีทั้งหมด 7 คน หนึ่งในนั้นคือนายสุทธิชัยเป็นสามีของนางสาวอ้อยรวมอยู่ด้วย โดยมีเรือหาปลาจากประเทศเพื่อนบ้าน หมู่บ้านพง เมืองหินบูน แขวงคำม่วน สปปป.ลาว ขับเข้ามาเทียบท่า พวกตนจึงช่วยกันขนลำเลียงขนรถปิกอัพที่จอดรอ จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่โผล่มาจากที่ซ่อนเข้าจับกุม เพื่อนๆเผ่นหนีกระเจิงจึงถูกจับได้ 3 คน
ส่วนนายสุทธิชัยสามีของนางสาวอ้อย เล่าว่าพื้นเพเป็นคนอำเภอนาแก พบรักกับนางสาวอ้อยทางเฟซบุ๊ก ก่อนจะตัดสินใจอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาได้เพียงสองเดือน มารู้ภายหลังว่านางสาวอ้อยเอาเงินมาปรนเปรอตนแบบไม่อั้นนั้น ได้มาจากการขายยาบ้า และถูกนางสาวอ้อยใช้ให้เข้าร่วมขบวนการ กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
ด้านนายอนุสรณ์ หวังจุลกลาง เปิดเผยว่ามีอาชีพขับรถรับจ้างใน กทม. และปริมณฑล ได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่อยู่ในไลน์กลุ่มขับรถรับจ้างด้วยกัน ให้ค่าจ้าง 2,500 บาท อ้างมาเที่ยวสกลนคร จึงเดินทางมาจากนนทบุรี โดยวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นอนที่จังหวัดสกลนคร 1 คืน รุ่งเช้าเพื่อนชวนมาเที่ยวต่อที่จังหวัดนครพนม อ้างมารับของฝากจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นค่าน้ำมันรถ จากนั้นก็นั่งอยู่ในรถริมฝั่งแม่น้ำโขง ไม่นานก็มีคนขนสิ่งของมาใส่ท้ายกระบะ แต่ไม่รู้ว่าภายในเป็นยาบ้า จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจับกุม แต่เพื่อนที่ขับรถพามาไหวตัววิ่งหนีทัน เหลือกลุ่มวัยรุ่นอีก 2 คน ที่หนีไม่ทัน จึงถูกจับกุมด้วยกัน ซึ่งตนยืนยันไม่เคยรับจ้างมาก่อน และมากับเพื่อนที่รู้จักกันในกลุ่มไลน์รับจ้างขับรถ ไม่รู้ว่าจะมาขนยาบ้า
ชุดจับกุมเผยว่าขบวนการค้ายาเสพติด มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ในพื้นที่บ้านนาขาท่า หมู่ 7 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งมียาบ้าบรรจุกระสอบปุ๋ย บรรทุกใส่เรือหางยาวเข้ามาจำนวน 19 กระสอบ เพื่อนำมาพักรอการขนส่งต่อไปขาย ในพื้นที่ชั้นใน จึงได้ประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคง เข้าสกัดจับกุมไว้ได้ พร้อมผู้ต้องหา ส่วนที่มีการหลบหนีอีกหลายราย กำลังเร่งรวบรวมหลักฐานขยายผลติดตามจับกุม ถือว่าเป็นยาบ้าล็อตใหญ่ในช่วงต้นปี โดยสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดในช่วงนี้ยังน่าห่วงและต้องเพิ่มมาตรการเข้มสกัดกั้นปราบปรามจับกุม ส่วนยาเสพติดล็อตนี้ถือว่าเป็นยาบ้าที่มีราคาสูง ซึ่งจะได้มีการสอบสวนขยายผลทั้ง ขบวนการในพื้นที่ และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี โดยเบื้องต้นขบวนการนี้เป็นเครือญาติกันทั้งหมด ส่วนนางสาวอ้อยหลังทราบว่าทีมงานถูกจับกุม ก็รีบเผ่นหนีออกจากบ้านทันที
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: