นครพนม – จากกรณีคดี 5 โจ๋วัยรุ่น รุมสกรัมนายวีระพงศ์ มะสุใส หรืออาท อายุ 27 ปี อาชีพเป็นครูสอนคอมพิวเตอร์ วิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เหตุเกิดเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอโพนสวรรค์ ตรงข้ามกับโรงพยาบาลโพนสวรรค์ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก สภ.โพนสวรรค์ โดยใช้หมวกกันน็อคที่นายวีระพงศ์สวมใส่ทุบเข้าศีรษะหลายครั้ง จนได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคั่งในสมอง ขณะขับรถ จยย.ออกจากงานนมัสการพระธาตุจำปา บ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์ พาเพื่อนสาวคือ น.ส.ศศิธร กองแพง หรือแบม อายุ 20 ปี ไปส่งบ้านพักที่เปิดเป็นปั๊มบริการน้ำมัน ในเขตเทศบาลตำบลโพนสวรรค์ ถึงขณะนี้นายวีระพงศ์หรือครูอาทได้แค่ลืมตา ยังไม่สามารถพูดได้ ถือว่ายังไม่พ้นขีดอันตราย คงนอนรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย อาคาร 67 ปี โรงพยาบาลนครพนม
หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายทั้ง 5 คน ไม่ยี่หระต่อการกระทำ แม้จะทราบว่าคู่กรณีอาการสาหัสเจียนตาย บางคนร่าเริงลงเฟซบุ๊กเช็คอินว่าไปเที่ยวกินดื่มในสถานบันเทิงชื่อดังในจังหวัดนครพนม อย่างมีความสุขสนุกสนาน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ ขณะทางฝ่ายผู้บาดเจ็บซึ่งมีฐานะยากจนเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพื่อนๆของคนเจ็บจึงนำภาพอาการของนายวีระพงศ์หรือครูอาทเผยแพร่ทางสื่อโซเซียล กระทั่งนักข่าวประจำจังหวัดฯนำข้อเท็จจริงเสนอต่อสาธารณชน ทำให้โจ๋ทั้ง 5 คน ต้องเดินทางไปมอบตัวกับ ร.ต.อ.ฉัตรชัย กองพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพนสวรรค์ ประกอบด้วย 1.นายโชคชัย มาปัน หรือก็อต อายุ 20 ปี 2.นายณัฐธวุฒิ ต้ายบุญเทียม หรือปอย อายุ 22 ปี 3.นายลายสือ โยลัย อายุ 23 ปี และเยาวชนอายุระหว่าง 16-17 ปี อีกสองคน
โดยรับสารภาพว่ารุมทำร้ายครูอาทจริง เพราะคิดว่าขณะอยู่ในงานนมัสการพระธาตุจำปา มีคนขว้างขวดเหล้าใส่จึงคิดว่ามาจากโต๊ะของคนเจ็บ จึงขับ จยย.ไล่ตามกระทืบ และถูกสังคมกดดันไม่ไหวจึงพากันมามอบตัวดังกล่าว
ล่าสุด วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 มีญาติพี่น้องของผู้ก่อเหตุทั้ง 5 ราย นำตัวมารับทราบข้อกล่าวหาคือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับบาดเจ็บแก่กายและอันตรายสาหัส ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ 1.นายโชคชัย มาปัน หรือก็อต อายุ 20 ปี 2.นายณัฐธวุฒิ ต้ายบุญเทียม หรือปอย อายุ 22 ปี 3.นายลายสือ โยลัย อายุ 23 ปี ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม โดยคัดค้านการประกันตัว ส่วนเยาวชนอีก 2 คน ต้องสอบปากคำที่สำนักงานอัยการจังหวัดนครพนมต่อหน้าสหวิชาชีพ
ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวน นำตัวผู้ต้องหาทั้งสามส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม ญาติก็เขียนคำร้องเพื่อขอประกันตัว ปรากฏว่าศาลพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่าเป็นเรื่องร้ายแรงฯ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวจึงยกคำร้อง ทำให้สามโจ๋ขาใหญ่ต้องเดินคอตกเข้าเรือนจำ โดยถูกฝากขังผัดแรก 12 วัน
นอกจากนี้แหล่งข่าวในพื้นที่อำเภอโพนสวรรค์เผยว่า มีกลุ่มลูกคนมีฐานะตระเวนกินดื่มตามสถานที่ต่างๆ หากไม่พอใจใครก็จะชักชวนกันไปทำร้าย มีหลายรายถูกกระทืบ แต่ไม่กล้าแจ้งความ ทำให้ได้ใจจึงเหิมไล่รุมสกรัมคนอื่น ซึ่งในรายของนายวีระพงศ์หรือครูอาท แม้จะมีฐานะทางบ้านยากจน แต่มีเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นทนายความหลายคน พร้อมจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกรุมทำร้าย โดยเพื่อนที่เป็นทนายความคนหนึ่งเผยว่า”ต่อให้คุณมีเงินแค่ไหน หากกระทำผิดก็หนีคุกไม่พ้น” ซึ่งอาการล่าสุดของนายวีระพงศ์ขยับขาซ้ายได้เพียงข้างเดียว
