นครพนม – วันที่ 19 ส.ค.61 เวลา 04.30 น. ร.ต.อ.ศราวุฒิ บุดดีคง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนงัดร้านบุญเกษตรพอเพียง เลขที่ 421-423 ถนนอภิบาลบัญชา เขตเทศบาลเมืองนครพนม อยู่ใกล้กับธนาคารกสิกรไทย จึงเดินทางไปพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สายสืบ พบเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 2 คูหา ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเขตเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของจังหวัด ที่มีการสัญจรพลุกพล่าน มีนายชาติชาย บูรรุ่งโรจน์ อายุ 59 ปี เจ้าของร้าน และ น.ส.รสริน บูรรุ่งโรจน์ อายุ 67 ปี พี่สาว ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ร้านดังกล่าวเปิดจำหน่ายอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์การเกษตร มากว่า 30 ปี บริเวณหน้าหน้าเป็นประตูเหล็กม้วน 2 ชั้น ถูกคนร้ายใช้อุปกรณ์ตัดกุญแจทั้งสองดอกขาด ก่อนที่จะเข้าไปยกเก๊ะเหล็กที่วางไว้บนเคาน์เตอร์ ในนั้นมีเงินสดประมาณ 25,000 บาท หลบหนีไป เมื่อไปเปิดวงจรปิด เวลา 00.21 น. พบภาพเป็นชายสองคน สวมหมวกไอ้โม่งลายพราง ใช้คีมตัดเหล็กสอดเข้าไปตัดกุญแจ แล้วตรงดิ่งไปยังโต๊ะเก็บเงิน โดยใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ก็ได้ทรัพย์สินออกจากร้านไป ซึ่งดูจากลักษณะท่าทางของคนร้ายทั้งสอง เหมือนคนที่มีความคุ้นเคยกับสถานที่ เพราะไม่มีการรื้อค้นใดๆ หลังตัดกุญแจมุดเข้าไปในร้านได้ก็เดินไปยังเคาน์เตอร์ทันที
น.ส.รสรินพี่สาวเจ้าของร้านเผยว่า เวลาประมาณตีหนึ่ง ตนและญาติๆนอนพักผ่อนอยู่ที่ชั้นสามของอาคาร ได้ยินเสียงเพลงบรรเลงดนตรีอีสานดังมาก จนกระจกห้องสั่น แต่ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร คิดว่าพวกคนเมามาเปิดเพลงเสียงดัง กระทั่งเวลา 04.00 น. ลุกขึ้นมาเตรียมของไปใส่บาตรพระ เห็นประตูหน้าร้านเปิดจึงมาตรวจสอบสิ่งของ พบคนร้ายขโมยเงินที่เก็บไว้สำหรับทอนลูกค้าหายไป จึงบอกน้องชายแจ้งตำรวจดังกล่าว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเก็บหลักฐานที่ร้านบุญเกษตร ก็ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อีกว่า บนถนนเส้นเดียวกัน ห่างจากร้านบุญเกษตรประมาณ 70 เมตร ตรงข้ามธนาคารทหารไทย ชื่อร้านเมืองเกษตร เลขที่ 904 ก็ถูกคนร้ายงัดร้านเช่นเดียวกัน พบนายชาญนาวี ภู่บัณฑิต อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน ยืนรออยู่หน้าบ้านที่เป็นประตูเหล็กยืด มีร่องรอยคนร้ายใช้คีมแบบเดียวกันตัดเข้าไปลักทรัพย์ ได้เงินสดที่อยู่ในกระเป๋าถือสตรีประมาณ 20,000 บาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล นายชาญนาวีผู้เสียหาย เผยว่าตนและภรรยานอนอยู่ชั้นสอง ได้ยินเสียงรถยนต์เร่งเครื่องดังมาก กระทั่งเช้าเตรียมเปิดร้าน พบประตูบ้านถูกคนร้ายงัดเข้ามาลักทรัพย์สินหลบหนีไป จึงแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก็ทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าร้านบุญเกษตรที่จำหน่ายอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์การเกษตรเหมือนกัน ก็โดนคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินเช่นเดียวกัน
จากการสันนิษฐานคนร้ายทั้งสองเตรียมตัวมาอย่างดี สวมหมวกไอ้โม่งปกปิดหน้าตา และยังใส่ถุงมือป้องกันการตรวจสอบลายนิ้วมืออีกด้วย โดยกลบเกลื่อนขณะลงมือด้วยการเร่งเครื่องยนต์แรงๆ และเปิดเพลงเสียงดังๆ แต่เมื่อดูลักษณะท่าทางแล้ว เจ้าหน้าที่รู้ว่าคนร้ายทั้งสองเป็นใคร คาดจะได้ตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในเวลาไม่ช้านี้
