นครพนม – แม่ทัพภาค 2 แถลงข่าวร่วม นรข. ยึดยาไอซ์ล็อตใหญ่ 542 กก.มูลค่ากว่า 1,500 ล้าน สั่งจับตาเข้มแนวชายแดนอีสาน เหตุยาเสพติดทะลักบ่อย
วันที่ 1 มีนาคม 2563 เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม(นรข.) พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาค 2 พร้อมด้วย พลเรือตรี สมพงษ์ ศรอากาศ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง นครพนม (ผบ.นรข.) พลตรี สามารถ จินตสมิทธิ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) พลตรี สวราชย์ เเสงผล ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.ณรงค์ นาคทั่ง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นาวาเอก ณัฐพงศ์ พรรณรายณ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม นาวาโท สิทธิศักดิ์ สิทธิกุล หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร พันโท อุทัย นิลเนตร ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ผบ.ร.3 พัน.3) พ.ต.ต.ชิษณุพงษ์ ทองเกื้อ ผบ.ร้อย ตชด.236 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ นรข.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน และ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง แถลงข่าวการตรวจยึดยาไอซ์ล็อตใหญ่ น้ำหนักรวม 542 กิโลกรัม
โดยตรวจยึดได้เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 20.00 น. บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ซึ่งเป็นรอยต่อกับ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หลังมีการสืบทราบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จะลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในพื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.ธาตุพนม กับ อ.หว้านใหญ่ จึงได้ระดมกำลังบูรณาการกับหน่วยงานด้านความมั่นคงลงพื้นที่ สกัดกั้นปราบปราม จับกุม ตลอดแนวรอยต่อของ 2 อำเภอ
กระทั่งตามวันและเวลาดังกล่าว พบกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 4 -5 คน ขับเรือหางยาวมาจอดเทียบท่าบริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ช่วยกันแบกสิ่งของบางอย่างคล้ายกระสอบลงจากเรือ จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ ทำให้กลุ่มชายคนขับเรือรีบเร่งเครื่องยนต์ขับหนีไปทางฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนกลุ่มที่แบกขนทิ้งสิ่งของที่แบกอยู่ลงพื้น อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่ วิ่งหลบหนีไปทางหมู่บ้านข้างเคียง
ข่าวน่าสนใจ:
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสิ่งของที่คนร้ายทิ้งไว้ พบเป็นกระสอบปุ๋ยตราม้าบินสีเขียวและสีเหลืองทิ้งอยู่จำนวน 22 กระสอบ ตรวจสอบภายในเป็นยาไอซ์ บรรจุในถุงพลาสติกกันชื้น แพ็คเกจสีเขียว มีอักษรภาษาจีน และภาษาอังกฤษ คำว่า GUANYINWANG ซึ่งยังไม่ทราบแหล่งผลิต มีน้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 542 กิโลกรัม จึงได้บันทึกการตรวจยึด พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ โดยได้นำของกลางทั้งหมดมาแถลงข่าวที่ นรข.นครพนม
จากข้อมูลการจับกุม พบว่ามีราคาซื้อขายตามแนวตะเข็บชายแดน กิโลกรัมละ 8 แสนบาท หากเล็ดลอดเข้าไปพื้นที่ชั้นในจะเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 3 ล้านบาท รวมมูลค่า 1,626 ล้านบาท ไอซ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เร่งขยายผลหาที่มา และติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
มีสถิติการจับกุมยาไอซ์ พบว่าเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2562 ตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก จับกุมยาไอซ์ล็อตใหญ่มากถึง 1,500 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 2 คน สำหรับพื้นที่ภาคอีสานพบว่าปี 2562 ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 234 (ตชด.234) ตรวจยึดยาไอซ์ได้ 252 กิโลกรัม มาครั้งนี้ นรข.สามารถตรวจยึดได้ถึง 542 กิโลกรัม ถือว่ามีจำนวนมากสุดในภาคอีสาน คาดว่ามีการลำเลียงมาจากชนกลุ่มน้อยทางภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อลักลอบ เข้าทางตะเข็บชายแดนอีสาน และส่งต่อไปขายตอนในของประเทศ โดยพื้นที่ชายแดนอีสาน รวมถึง จ.นครพนม ถือว่า ช่วงนี้มีการตรวจยึด จับกุม ยาเสพติดบ่อยครั้ง และมีปริมาณมากเป็นล็อตใหญ่ คาดว่าคงถูกกดดันมาจากชายแดนภาคเหนือ ซึ่งจากสถิติจับกุมปี 2563 พบว่ารอบเดือนที่ผ่ามา มีการยึดยาบ้ามากกว่า 4 ล้านเม็ด กัญชามากกว่า 2 ตัน
ด้าน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาค 2 เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ชายแดนอีสานถือว่ามีการตรวจยึดยาเสพติดบ่อยครั้ง อาจมาจากมีการถูกกดดันหนีมาจากชายแดนภาคเหนือ ทำให้เข้าทางภาคอีสาน บวกกับมีการบูรณาการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่มากขึ้น ทำให้มีสถิติการจับกุมบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานความมั่นคง เข้มงวดตรวจสอบ หาข่าว สร้างความร่วมมือกับชาวบ้าน ในการสกัดกั้นปราบปรามดูแลตามแนวชายแดน ยิ่งช่วงน้ำโขงลด อาจเป็นอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ แต่เอื้อต่อการลักลอบของ ขบวนการค้ายาเสพติด จึงต้องสร้างความร่วมมือทุกฝ่ายในการทำงาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่แจ้งเบาะแส
สำหรับยาไอซ์ล็อตนี้ ตรวจสอบเบื้องต้น ทะลักมาจากทางชายแดนภาคเหนือ ยังไม่สามารถระบุต้นทางการผลิตได้ ต้องตรวจสอบให้แน่ชัด โดยมีการลำเลียงผ่านมาหลายจังหวัดตามชายแดนภาคอีสาน หากพื้นที่ไหนสะดวกในการลักลอบนำเข้า จะขนส่งข้ามทันที อย่างไรก็ตามทางหน่วยงานเกี่ยวข้องจะต้องเพิ่มมาตรการเข้มมากขึ้น เพราะหากลักลอบเข้ามาได้ จะเกิดความเสียหายต่อประเทศไทยมหาศาล
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: