นครพนม – วันที่ 20 ส.ค.61 จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครพนม กำลังจะเข้าสู่ภาวะปกติ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง หลายพื้นที่ในอำเภอต่างๆ ชาวบ้านได้กวาดล้างขัดถูโคลนตมออกจากบ้าน เตรียมขนย้ายสิ่งของกลับเข้าที่เดิม
ปรากฏว่าเกิดอุทกภัยทางภาคเหนือ ประกอบกับเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้านปล่อยน้ำมาสมทบ จึงทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงกลับมาเพิ่มปริมาณอีกครั้ง โดยเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ บางชั่วโมงขึ้นพรวดทีเดียว 9 ซม. เป็นต้น ล่าสุด เวลา 18.00 น. โครงการชลประทานนครพนม รายงานระดับน้ำในแม่น้ำโขง ของสถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ระดับน้ำอยู่ 11.59 เมตร ระดับตลิ่ง 13.00 ม. ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.41 เมตร นอกจากนี้รายงานข่าวแจ้งว่าเขื่อนไซบุรี ประเทศลาว เปิดประตูระบายน้ำทุกบานอย่างเต็มที่ ทำให้ระดับน้ำโขงบริเวณอำเภอเชียงคาน จ.เลย พุ่งพรวดทีเดียว 80 ซม. และไหลมารวมกับน้ำจากเขื่อนน้ำงึมที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย จึงทำให้พื้นที่ตอนใต้อย่างนครพนมมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ขณะเดียวกัน นายปริญญา คัชมาตย์ ชลประทานจังหวัดนครพนม มีหนังสือที่ กษ 0316.10/480 ลงวันที่ 20 ส.ค.61 เรื่องแจ้งเตือนภัยและเฝ้าระวังปริมาณไหลบ่า ถึง ผวจ.นครพนม ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยฯ เกษตรจังหวัดฯ นายอำเภอนาหว้า,ศรีสงคราม,ท่าอุเทน,และอำเภอเมืองนครพนม ถึงกรณีเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร เร่งปล่อยน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกเหนือเขื่อน จึงจะผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมลำน้ำอูน พื้นที่อำเภอนาหว้า ก่อนจะไปไหลรวมกับแม่น้ำสงคราม ที่อำเภอศรีสงคราม แล้วไหลสมทบกับแม่น้ำโขงที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จึงแจ้งให้ชาวบ้านริมตลิ่งแม่น้ำโขง พร้อมทั้งสองฝั่งของแม่น้ำสงคราม ลำน้ำอูน และพื้นที่ลุ่มต่ำเขต อ.นาหว้า ศรีสงคราม และอำเภอเมืองฯ เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่จะไหลบ่าท่วมพื้นที่ โดยขอให้ย้ายสิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง
นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.นครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าได้เฝ้าระวังปริมาณน้ำในลำน้ำต่างๆตลอดเวลา แม้ฝนในพื้นที่ของจังหวัดนครพนมได้ลดลง แต่น้ำเหนือไหลบ่าลงมา จึงทำให้ปริมาณน้ำโขงกลับมาเพิ่มปริมาณอีกครั้ง จึงสั่งกำชักทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ห่วงที่สุดคือประชาชนที่อยู่ริมลำน้ำอูนกับแม่น้ำสงคราม เนื่องจากเขื่อนน้ำอูนพร่องน้ำลงมาเต็มที่ นครพนมเป็นที่รองรับจึงได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้านโซนใต้อย่างลำน้ำบังกับลำน้ำก่ำทาง อ.นาแก ธาตุพนม นั้น ไม่น่าเป็นห่วงแล้ว เพราะน้ำได้ลดลงต่อเนื่อง ถ้าไม่มีพายุพัดผ่านมาอีกทางโซนเหนือก็เบาใจขึ้นเยอะ
เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร เป็นเขื่อนที่ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต เผยว่าอยู่ในอันดับ 2 ใน 5 เขื่อน ของการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 1.เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 2.เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร 3.เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี 4.เขื่อนขุนด่านประการชล จ.นครนายก และ 5.เขื่อนปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
โดยเขื่อนน้ำอูน มีปริมาณน้ำ คิดเป็น 101% ของพื้นที่ท้ายน้ำ พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่ง มีอำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม บ้านพอกใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งต้องเร่งพร่องน้ำให้เต็มศักยภาพของลำน้ำท้ายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่ตกเหนือเขื่อนโดยประสานจังหวัดและพื้นที่ พร้อมการแจ้งเตือนและให้การช่วยเหลือต่อไปแล้ว
