นครพนม – คืบหน้าคดีนายมณเฑีย คำภาปัด หรือมน อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ 7 บ้านดงสว่าง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ผู้ต้องหาใช้กุญแจรถ จยย.ของตนเอง เสียบลำคอนายสาคร ตันนาดี อายุ 52 ปี ทะลุเส้นเลือดใหญ่เสียชีวิตหน้าทางเข้าบ้านเลขที่ 25 หมู่ 23 บ้านหนองเดิ่นพัฒนา ต.บ้านผึ้ง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.0 น. วันที่ 2 มีนาคม 2563 ซึ่งหลังก่อเหตุนายมนได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้าน แล้วหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะ รอจนกระทั่งรุ่งเช้าจึงออกมาเข้าบ้านอีกครั้ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 4 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายมณเฑียน คำถาปัด ท่ามกลางสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมา สภาพบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง ฝาเป็นฟากไม้ไผ่ขัดแตะ พบกับนางทองใบ โคตรธานี อายุ 70 ปี แม่ของผู้ต้องหา ได้เปิดเผยว่านายมนเป็นเสาหลักที่ทำมาหากิน ปกติเป็นคนรักเพื่อนฝูง ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด วันเกิดเหตุมีตำรวจมาตามหาที่บ้าน บอกกับตนว่าลูกชายไปฆ่าคนตาย รู้สึกตกใจมาก เพราะคาดไม่ถึงว่าลูกชายจะเป็นคนเช่นนี้ กระทั่งช่วงเช้ามืดลูกชายกลับเข้าบ้าน ได้ถามตนว่านายสาครเป็นอย่างไรบ้าง ตนจึงตอบไปว่าตายแล้ว นายมนมีอการตัวสั่นเกรงกลัวความผิด ตนบอกอย่าหนีนะลูกไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ชดใช้กรรมที่ก่อไว้ ขณะเตรียมจะไปมอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาจับกุมดังกล่าว
“เสียใจมากที่ลูกชายกลายเป็นฆาตกร แต่เขาเล่าว่าระหว่างดื่มเหล้ากันนั้น มีปากเสียงกับนายสาครผู้ตาย เกรงเรื่องจะบานปลายจึงลุกเดินมาขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ริมถนน แต่ผู้ตายตามไปจะเอาเรื่องเลยเกิดชุลมุน ใช้กุญแจรถ จยย.เสียบไปที่ต้นคอ โดยไม่เจตนาจะให้ถึงตาย ตนขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย ฯ” นางทองใบ กล่าว
ขณะที่นางจิราวรรณ ปาประไกร อายุ 43 ปี พี่สาวของนายมน กล่าวเพิ่มเติมว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยน้องชายเป็นผู้หาเลี้ยงด้วยการทำนา และรับจ้างทั่วไป ได้เงินมาก็จะซื้อขนมให้หลานๆ กิน เมื่อต้องมาติดคุกเพราะก่อเหตุฆ่าคนตาย ยอมรับว่าภาระทั้งหมดต้องตกมาที่ตน ซึ่งจะเป็นเสาหลักดูแลครอบครัวต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
โดยก่อนหน้านี้หลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายมน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมี พ.ต.ท.จีรุฏฐ์ พิมพา รอง ผกก.สืบสวน และ ร.ต.อ.คงฤทธิ์ พลศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี เริ่มจากจุดผู้ต้องหาไปบ้านของผู้ตาย นั่งกินดื่มเหล้าขากันที่แคร่ไม้ไผ่ ก่อนจะมีปากเสียงและชกต่อยกัน แล้วใช้กุญแจรถแทงเข้าที่ลำคอ ก่อนจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำที่บ้าน แล้วมาหลบซ่อนบริเวณป่าละเมาะ
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายมนผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 18.00 น. ได้ขับบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงินคาดดำ ทะเบียน 1 กฎ 3611 นครพนม มาจอดหลังบ้าน ห่างจากแคร่จุดนั่งล้อมวงดื่มสุรากับเพื่อนบ้านรวม 4 คน รวมทั้งผู้ตาย ขณะดื่มได้ที่จนมึนเมา จึงได้ทะเลาะเบาะแว้งกับนายอุดร ตันนาดี อายุ48 ปี น้องชายของนายสาครผู้ตาย
นายมนอ้างว่ามีการท้าทายออกไปตีกันกลางถนนหน้าบ้าน ชุลมุนจนนายอุดรเซถลาล้มลง นายสาครเห็นน้องชายถูกทำร้ายได้เข้ามาห้ามปราบ และเกิดการชกต่อยชุลมุน ตนจึงล้วงกุญแจในกระเป๋าแทงคอนายสาครโดยไม่ได้ตั้งใจ จนเลือดพุ่งพุ่งกระจายเต็มถนน ตนเห็นจึงรีบประคองนายสาคร แล้วอุ้มเขย่าร่างแต่นายสาครหายใจรวยรินและสิ้นใจ
ต่อมาน้องเขยและน้องสาวนายสาคร วิ่งออกมาจากบ้านที่ใกล้กันมาฉุดกระชาก ตนเกรงจะถูกญาตินายสาครรุมประชาทัณฑ์ จึงรีบวิ่งหลบหนีไปในความมืด นำเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดไปทิ้งพงป่าห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 1 ก.ม. ก่อนวิ่งไปเข้าห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มาหลบซ่อนตัวในป่าละเมาะ กระทั่งถูกจับกุมได้ ซึ่งนายมนยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าแต่ป้องกันตัวเอง
โดยตำรวจจะนำตัวนายมนไปฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนมในวันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: