มุกดาหาร – ประชุมติดตาม เฝ้าระวัง และสังเกตการ ผู้เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 “ได้เตรียมสถานที่ ไว้รับเพื่อรอดูอาการ ควบคุมเฝ้าระวัง 14 วัน ซึ่งคนที่กลับเข้ามาต้องถือว่ายังไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อไวรัส ไม่มีอาการใด ๆ ก็จะปลอดภัย และให้กลับบ้านได้
วันที่ 8 มีนาคม 2563 นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการเฝ้าระวังและสังเกตการ ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 จำนวน 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อิหร่าน และอิตาลี กรณีที่มีคนไทย ที่เป็นลูกหลานชาวจังหวัดมุกดาหารกลับมาจาก 4 ประเทศ จะต้องถูกดำเนินการควบคุมเฝ้าระวัง 14 วัน ซึ่งคนที่กลับเข้ามาต้องถือว่ายังไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อไวรัส แต่ในระยะความปลอดภัยเราต้องกักกันตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ในระหว่างนี้ทางแพทย์ พยาบาล จะเฝ้าตรวจดูอาการ ภายใน 14 วันถ้าไม่มีอาการใด ๆ ก็จะปลอดภัย และให้กลับบ้านได้ หากมีไข้ก็จะส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป ซึ่งเป็นมาตรการ ที่ทางรัฐบาลสั่งการทุกจังหวัด ให้มีการจัดตั้งสถานที่สำหรับเฝ้าระวัง และสังเกตการ
จังหวัดมุกดาหาร ได้พิจารณาใช้อาคารรวมใจ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี บ้านดานคำ ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร เป็นสถานที่ในการเฝ้าระวังและสังเกตการ ซึ่งอาคารดังกล่าวอยู่ห่างจากชุมชน เป็นอาคาร 2 ชั้น สามารถแบ่งแยกสัดส่วนชายหญิงได้ชัดเจน มีรั้วรอบขอบชิด อากาศถ่ายเทสะดวก โดยจังหวัดมุกดาหาร จะจัดเจ้าหน้าที่ และบุคลากรสาธารณสุข ทีมแพทย์เข้าตรวจ ดูแลผู้ที่จะต้องเข้าเกณฑ์การควบคุมเฝ้าระวัง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นพี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหาร
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตามอยากให้ประชาชนเข้าใจและอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากผู้ที่เข้ามายังศูนย์เฝ้าระวัง และสังเกตการนี้ไม่ใช่ผู้ที่ป่วยเป็นโรคไวรัสโคโรน่า 2019 เป็นเพียงผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น และหากตรวจพบผู้เฝ้าระวังและสังเกตการมีอาการไข้จะถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลทันที
ทั้งนี้อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า เชื้อไวรัสโคโนา 2019 จะไม่ล่องลอยไปในอากาศ และไม่มีสัตว์เป็นพาหะนำโรค การจะติดเชื้อจะต้องติดจากผู้ที่เป็นโรคที่อยู่ใกล้กันไม่เกิน 1 เมตร และมีการไอ จามใส่กัน หรือมีการสัมผัสสารคัดหลั่ง ของผู้ติดเชื้อเท่านั้น สิ่งสำคัญคือ ความร่วมมือและความเข้าใจของคนไทย จะต้องไม่ตื่นตระหนก ไม่เชื่อข่าวลวง และมีการป้องกันตัวเองด้วยการ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เมื่อจำเป็นต้องเข้าไปในที่ชุมชน ขอให้ประชาชนมั่นใจระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขของไทย เราจะได้ปลอดเชื้อและปลอดจากการระบาดของโรคนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวเพิ่มเติมในกรณีมีการจับกุม การลักลอบขนสินค้าประเภทหน้ากากอนามัย ตามแนวชายแดนนั้น เมื่อผ่านขั้นตอนกระบวนการในการสอบสวนดำเนินคดีแล้ว จังหวัดมุกดาหารจะได้ดำเนินการตามระเบียบ เพื่อนำหน้ากากอนามัยมาใช้ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: