X

พ่อแม่น้องวัย 6 เดือน หัวใจสลาย !! ท้องเสียไปพบหมอช็อกตาย รพ.แจงสาเหตุการเสียชีวิต

นครพนม – วันที่ 10 มีนาคม 2563 จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ”Kinnaphat Prompakdee”  มีข้อความว่า “ #RIP. นะไอ้ตัวเล็ก ไปสู่สุขคตินะ 6 เดือน อีก5 วัน ครบ 7 เดือน เห้อ…ทำไมมีแต่เรื่องเศร้าๆ หมอเหี้ยไร คนไม่ได้เป็นไข้ฉีดยาซะตัวพรุน เด็ก 6 เดือน ท้องเสียนะเว้ย ไม่ได้เป็นไข้โควิด-19 จับมัดขาสองข้างพร้อมกัน เพื่อหาเส้น ฉีดยาให้ไม่รู้กี่อย่าง ? #RIP.#โรงพยาบาลนครพนม #เสียใจทำอะไรไม่ได้ #เด็กตายตายังไม่หลับเลย..” โดยมีผู้แสดงความเสียใจมากถึง 35,000 คน และแชร์ออกไปมากกว่า 21,000 ครั้ง

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 66 หมู่ 14 ซอยร่วมสัมพันธ์ บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ”น้องออโต้” เด็กชายวัชรพล ทุ่มอุทัย อายุ 6 เดือนเศษ พบกับนายนพพล ทุ่มอุทัย อายุ 38 ปี และ นางสุนิน เดชพระไชย อายุ 49 ปี พ่อแม่ของน้องออโต้  พร้อมกับเปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าว่า น้องออโต้เป็นลูกชายคนเล็กจากพี่น้อง 3 คน มีร่างกายจ้ำม้ำหนักถึง 7 โล 4 ขีด กำลังน่ารักน่าชังของคนในบ้าน

นางสุนินเล่าว่าในช่วงตอนเย็นของวันที่ 8 มีนาคม นายนพพลนำผลสาลี่มาปอกกิน ลูกชายก็คลานเข้าไปขอกินด้วย  ผู้เป็นพ่อจึงส่งให้ดูดตามประสาเด็ก ตกกลางคืนลูกชายมีอาการท้องเสีย และร้องไห้โยเยตลอดเวลา กระทั่งรุ่งเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. จึงพามาพบแพทย์ที่คลินิกรักษาเด็กแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองนครพนม แพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการท้องเสียจึงจัดยาและนมมาให้ทาน แต่อาการกลับไม่ดีขึ้นจึงชวนสามีพาไปโรงพยาบาลนครพนม

ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ให้ไปทำบัตรผู้ป่วยก่อน ตนจึงบอกว่าลูกหนูไม่ไหวแล้วขอตรวจก่อนได้ไหม แต่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่าต้องตามคิว จังหวะนั้นประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก ตนจึงรีบพาลูกชายเข้าไปพบแพทย์ภายใน ซึ่งก็ได้การดูแลบนเตียงคนไข้ จากนั้นก็มีพยาบาลเข้ามารุมล้อม ช่วยกันจับขาของลูก โดยอ้างว่าจะให้น้ำเกลือ ก่อนจะปิดม่านไม่ให้ผู้ปกครองเข้าไป ไม่นานแพทย์ก็เปิดม่านบังออกแล้วบอกกับตนและสามีว่า ขอแสดงความเสียใจด้วยลูกคุณเสียชีวิตแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อเพราะก่อนออกจากบ้านลูกไม่มีอาการใดๆ มีเพียงอาการไข้เล็กน้อยเท่านั้น แต่มาถึงมือแพทย์เพียงชั่วโมงเดียวก็เสียชีวิต จึงอยากรู้ว่าน้องออโต้เสียชีวิตจากสาเหตุใด

หลังเป็นข่าวสนั่นหวั่นไหวในโซเซียล ต่อมาเพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ นำเสนอเรื่องราวดังกล่าวว่า “อ่านผ่านๆ ไปเห็นโพสต์ของครอบครัวคนไข้ ผู้สูญเสีย

เป็นเด็กชาย ท้องเสีย ไข้สูงหลายวัน ชัก ช็อก ระบบไหลเวียน และการหายใจล้มเหลว

ถูกนำส่งโรงพยาบาล ช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ แล้วไม่สำเร็จ…

โรงพยาบาลถูกโยนให้เป็นผู้ร้าย สิ่งที่หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ช่วย กลายเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าใดๆ :

เวลาลูกป่วย สังเกตอาการ ดูแลกันดีๆ นะครับ *เมื่อไหร่ที่ควรต้องไปโรงพยาบาล

-ไข้สูงเกิน 2-3 วัน-อาการแย่ลง ซึมลง กระสับกระส่าย กินไม่ได้ ชักเกร็ง ปัสสาวะออกน้อยลงต้องพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล หากอาการรุนแรง ซึม ชัก หมดสติ โทร 1669 ทันที

หวังให้ครอบครัวที่สูญเสีย และผู้ที่เกี่ยวข้อง ผ่านเรื่องร้ายไปได้โดยเร็ว ทุกฝ่ายสามารถปรับความเข้าใจกัน ไม่อยากให้เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ยกความผิด ความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่โรงพยาบาล

การให้ข้อมูลใดๆ ทางโซเชียล ควรมีการทบทวนข้อมูลอย่างรอบด้าน และต้องรับผิดชอบกับผลเสียที่อาจตามมาครับ ชาว รพ.เครียดกับหน้ากากหมด รพ.ก็หนักแล้วนะช่วงนี้ :

***มีคำชี้แจงจาก ทีมรพ.ที่ดูแลดังนี้ครับ สรุป timeline ผู้ป่วยเด็กมาด้วยไข้สูง 4 วัน ถ่ายเหลววันละ 5-6 ครั้ง อาเจียนวันละมากกว่า 10 ครั้ง วันที่ 2 ญาติพาไปรักษาที่คลินิก เด็กมีอาการซึมลง 1 วันก่อนมา รพ.

ช่วงบ่ายเด็กมีเกร็งตาค้าง มาถึง ER 16.45 น. มีอาการไข้สูง 40 องศา เกร็งตาค้าง เขียว

ทีมแพทย์และพยาบาลได้พยายามดูแลรักษา นำผู้ป่วยไปดูแล resuscitation ได้ใส่ท่อช่วยหายใจ ระหว่างนั้นเจาะน้ำตาลพบว่าน้ำตาลในเลือดต่ำมาก พยายามเปิดเส้นเลือดเพื่อให้น้ำเกลือแต่เปิดไม่ได้เนื่องจากเส้นเลือดหดตัวไปหมด (shock) ในเวลาเดียวกันผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นได้เริ่มการทำ CPR พร้อมๆ กับการให้สารน้ำทางกระดูก (intraosseous infusion) ต้องเปิดทั้ง 2 ขาเนื่องจากด้านหนึ่งไม่สามารถให้ต่อเนื่องได้

ทีมของเราพยายามดูแลผู้ป่วยอย่างสุดความสามารถ ใช้เวลา CPR รวม 45 นาที

ทางทีมรู้สึกเสียใจในความสูญเสียที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

และขอใช้โอกาสนี้ให้ข้อมูลที่อาจเป็นประโยชน์แก่ประชาชนต่อไปว่า หากผู้ป่วยมีอาการไข้สูงเกิน 2-3 วัน, มีอาการเปลี่ยนแปลงแย่ลงเช่น ซึมลง กระสับกระส่าย กินไม่ได้ ชักเกร็ง ปัสสาวะออกน้อยลง ควรรีบนำผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่ รพ. เพื่อประเมินและรักษา และหากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น ซึม ชัก สามารถแจ้ง 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือได้ค่ะ***

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน