นครพนม – ผวจ.นครพนม นำทีมถอดบทเรียน กักกันพื้นที่กรณีพบผู้ป่วยโควิด สลด !! คนในหมู่บ้านตายด้วยโรคชรา เอาศพเข้าบ้านไม่ได้
วันที่ 30 มีนาคม 2563 เวลา 10.30 น. ที่ปากทางเข้าบ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 5, 6 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นพ.จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม(สสจ.ฯ) พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม นำนายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ผกก.สถานีตำรวจ 19 สภ. ทหารจาก มทบ.210 และ นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จริงซึ่งเป็นสถานที่จุดเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 หลังมีหญิงหญิงสูงวัยอายุ 63 ปี ชาวบ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 6 ต.ท่าจำปา ทำงานเป็นแม่บ้านผับชื่อดังแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ กทม. มีผลยืนยันติดเชื้อโควิด-19 รายแรกของจังหวัดนครพนม ทำให้เจ้าหน้าที่ปิดกั้นการเข้าออกเด็ดขาด ทำให้ 419 ครัวเรือน ประชากรเกือบ 2,000 คน ต้องอยู่ในอาณาเขตที่กำหนดไว้เท่านั้น นับแต่วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จนกว่าจะครบ 14 วัน คือวันที่ 10 เมษายน นี้
ผวจ.นครพนม กล่าวว่า หลังมีคำสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 694/2563 เรื่องปิดสถานที่และห้ามเข้าออกสถานที่ที่กำหนดเป็นการชั่วคราว จึงนำภาพมาขยายใหญ่เพื่อชี้แจงแก่นายอำเภอ และ ผกก.แต่ละแห่งทราบถึงการปฏิบัติงาน ระบุว่าหากเจ้าหน้าที่คนไหนหรือแม้แต่ตนเองก็ตาม หากไม่ได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท่าอุเทน เป็นลายลักษณ์อักษร แต่เข้าไปพื้นที่ดังกล่าวโดยพละการ จะต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
ด้าน นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม เขต 2 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ขวัญกำลังใจของชาวบ้านยังจิตตกและตื่นตระหนกอยู่ หลังชาวบ้านทั้งสองหมู่ เกือบ 2,000 คน ถูกกักตัวกะทันหันแบบไม่ทันตั้วตัว นอกจากนี้ยังพบว่ามีคนป่วยด้วยโรคชราและโรคประจำตัว จำนวน 3 ราย เสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ไม่สามารถนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลในหมู่บ้านได้ โดยสองศพเสียชีวิตตอนเช้าเผาเย็นในป่าช้าหมู่บ้านใกล้เคียง เพราะไม่มีผู้คนในหมู่บ้านออกมาร่วมงานศพดังกล่าวได้ ส่วนอีกหนึ่งศพญาติฝากไว้ในห้องเย็นของโรงพยาบาล รอจนกว่าจะครบกำหนดกักพื้นที่ 14 วัน คือวันที่ 10 เมษายน ก็จะนำศพออกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านอีกครั้งหนึ่ง หมู่บ้านท่าดอกแก้วหมู่ 5 รวม 3 ราย เสียชีวิตด้วยโรคชรานับตั้งแต่ปิดหมู่บ้าน
นอกจากนี้ ส.ส.นครพนม เขต 2 ยังได้นำน้ำดื่มจำนวน 90 โหล และข้าวกล่องมาแจกจ่ายให้ชาวบ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน อีกทั้งผู้ใจบุญทราบข่าวจากโซเซียลนำสิ่งของอาหารแห้ง ทยอยมามอบให้ต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
โดยตลอดเวลามีผู้คนนำสิ่งของมาฝากญาติที่ถูกกักตัวอยู่ในพื้นที่ ตามกฎเหล็กเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ซึ่งถึงขณะนี้ชาวบ้านเริ่มปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้แล้ว และมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ต่างจากเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกคนล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
