นครพนม – ชื่นชม ส.ส.เดือน หญิงแกร่ง สละเงินเดือนซื้อหน้ากาก เจล แจก รพ.สต. เผยไม่ต้องรอเป็นรัฐบาล เดินหน้าลุยแจกรายวัน สู้โควิด มั่นใจไม่ระบาดเพิ่ม
เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม หรือ ส.ส.เดือน หญิงแกร่ง หนึ่งเดียวของ จ.นครพนม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 อีกทั้งยัง เป็น ส.ส.แชมป์ตลอดกาลขวัญใจประชาชน ถึงแม้ในช่วงนี้ งดภารกิจประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังไม่มีวันหยุดทำงานต่อเนื่อง ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมติดตาม ดูแลช่วยเหลือชาวบ้าน ในพื้นที่ จ.นครพนม รวมถึงเขต เลือกตั้ง ที่ 2 สร้างความมั่นใจ และความร่วมมือในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด โดยเฉพาะพื้นที่ บ้านท่าดอกแก้ว หมู่ 5 และ หมู่ 6 ต.ท่าจำป่า อ.เมือง จ.นครพนม ถูกล็อกดาวน์ 14 วัน เนื่องจากมีการตรวจพบยืนยัน มีผู้ติดเชื้อ เป็นหญิง อายุ 63 ปี ที่เดินทางกลับจาก กทม. ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 ทำให้มีชาวบ้านได้รับผลกระทบ ถูกกักพื้นที่ รวมกว่า 400 ครัวเรือน โดยทาง ส.ส.เดือน มนพร เจริญศรี ได้ ร่วมกับ ภาครัฐ ส่วนราชการเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ตรวจสอบ ติดตาม ให้กำลังใจทุกวัน เพื่อประสานงาน ดูแล สำหรับชาวบ้าน ที่มีความจำเป็น เจ็บป่วย ต้องออกมารับการรักษา รวมถึงการ ดูแลเรื่องเสบียงอาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม ซึ่งมีทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ผู้ใจบุญ หลั่งไหลมาช่วยดูแล บริจาค
ล่าสุด นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม หญิงแกร่ง หนึ่งเดียวของ จ.นครพนม ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 ได้ควักเงินส่วนตัว และยอมสละเงินเดือน ตำแหน่งผู้แทน มาเป็นค่าใช้จ่ายในการ จัดซื้อ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไปแจกจ่ายให้ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ตามโรงพยาบาลอำเภอ รวมถึง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 2 รวม 3 อำเภอ มี อ.เมือง อ.ท่าอุเทน และ อ.โพนสวรรค์ เพื่อดูแลช่วยเหลือลดปัญหาการขาดแคลน และเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม หญิงแกร่ง หนึ่งเดียวของ จ.นครพนม เปิดเผยว่า ช่วงนี้ถือเป็นวิกฤติประเทศ เกิดโรคโควิดระบาด สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือ ร่วมใจ ทุกภาคส่วน ทั้งภาคการเมือง ภาครัฐ หน่วยงานราชการ และภาคประชาชน จะต้อง มีความรักสามัคคีหนึ่งเดียว เพื่อให้ก้าวข้ามวิกฤติโรคร้าย โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง ตนไม่เคยสนใจว่าจะต้องเป็นฝ่ายไหน ทั้งฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน ตนในฐานะฝ่ายค้าน แต่มีความจริงใจที่จะดูแลช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติ ยอมควักเงินส่วนตัว รวมถึงยอมสละเงินเดือนตำแหน่งผู้แทน มาใช้จ่ายดูแลสนับสนุนจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ ที่เป็นประโยชน์ต่อทีมควบคุมเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ยิ่งพื้นที่ บ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม สองหมู่บ้าน คือ หมู่ 5 -6 เกิดผลกระทบ ต้องล็อกดาวน์ถึง 14 วัน มาตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม 2563 มาถึงวันนี้ เหลืออีกไม่กี่วัน จะครบกำหนด ถึงจะยังไม่ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่ามีความสำเร็จในอีกระดับ ในการร่วมแรงร่วมใจ ควบคุมการแพร่ระบาด เนื่องจากยังไม่พบว่า มีคนเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น ส่วนคนป่วยที่ติดเชื้อมีอาการดีขึ้น และอีกไม่กี่วัน จะปลดล็อกให้ชาวบ้าน ใช้ชีวิตปกติ แต่ต้องยังเฝ้าระวังควบคุมบางส่วน ถือเป็นการถอดบทเรียนสำคัญ เป็นโมเดลต้นแบบ ในการนำร่องแก้ไขปัญหา มั่นใจว่าหากทุกคนร่วมมือ และไม่ซ้ำเติมหรือหวาดวิตกเกินไป จะทำให้ ประเทศไทย รวมถึงนครพนม ผ่านวิกฤติไปได้ สำคัญที่สุดคือความร่วมมือภาคประชาชน ทุกชุมชน หมู่บ้าน จะต้องช่วยสอดส่องดูแล กลุ่มเสี่ยง และปฏิบัติตามคำสั่งภาคราชการเคร่งครัด มาถึงวันนี้ ตนมั่นใจว่านครพนม จะควบคุมการแพร่ระบาดได้ ในฐานะผู้แทนชาวนครพนม ขอเป็นส่วนหนึ่งในการ สร้างภูมิคุมกันร่วมกับประชาชน ในการต่อสู้โรคร้ายโควิด ให้หมดไปเร็วที่สุด และจะได้หาแนวทางดูแลช่วยเหลือฟื้นฟูอาชีพ ภาคเศรษฐกิจการค้า ให้กลับสู่ภาวะปกติและพัฒนาต่อเนื่อง
