นครพนม – วันที่ 10 เมษายน 2563 นายปริญญา วิริยะพงษ์พันธ์ ผู้ประกอบอาชีพรับเหมา อ้างตัวแทนชาวบ้านในจังหวัดนครพนม นำเอกสารหลักฐาน เข้าพบ ร.ต.อ.ชม ชูรัตน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ตรวจสอบเอาเกี่ยวกับ กรณีมีข้อมูลว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(อบจ.นครพนม) มีการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องเทอร์โมสแกน วงเงินงบประมาณ 4,812,500 บาท (สี่ล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยบาทถ้วน) เพื่อแจกจ่ายให้กับชุมชน หมู่บ้านละ 1 ชุด ทั้ง 12 อำเภอ เพื่อนำไปใช้งานในการควบคุมดูแลเรื่องโรคโควิดระบาด รวมกว่า 1,100 หมู่บ้าน
โดยนายปริญญาระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว มีการจัดซื้อจัดจ้างแพงเกินจริง จากปกติมีราคาอยู่ที่ประมาณเครื่องละ 2,000 – 2,200 บาท แต่การจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้สูงถึงราคาเครื่องละ 3,500 – 3,800 บาท โดยประมาณ ตนเกรงว่าจะเป็นการฉวยโอกาส ทำให้ประชาชนเสียภาษีโดยเปล่าประโยชน์ และทำให้ภาครัฐเสียหาย จึงต้องการให้ทางพนักงานสอบสวน รวบรวมข้อมูล หลักฐาน ส่งไปยังหน่วยงาน ป.ป.ช. สตง.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการทุจริต
ทั้งนี้ในส่วนของพนักงานสอบสวน ได้มีการสอบปากคำตามคำร้องทุกข์ บันทึกเป็นหลักฐาน เพื่อทำการสอบสวน รวมรวมพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง กับหน่วยงานที่ถูกกล่าวหา และ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปข้อมูล ส่งไปยัง ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ข่าวน่าสนใจ:
นายปริญญา วิริยะพงษ์พันธ์ อายุ 52 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าหลังตนได้รับข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดโรคโควิดในพื้นที่ จ.นครพนม ตนในฐานะเป็นคนเกิดที่จังหวัดนครพนม แต่มาทำงานรับเหมาถมที่ต่างจังหวัด ช่วงกลับมาเยี่ยมบ้านที่นครพนม ได้ตรวจสอบข้อมูลตามข่าว ว่า อบจ.นครพนม มีการจัดซื้อจัดจ้าง เครื่องเทอร์โมสแกน ในวงเงินงบประมาณ 4,812,500 บาท เพื่อแจกจ่ายให้ กับชุมชนหมู่ บ้านทั้ง 12 อำเภอ เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามันแพงเกินจริง เพราะตามท้องตลาดทั่วไป ขายในราคาประมาณ 2,000 บาท จึงมองว่าจะเป็นการฉวยโอกาสในการทุจริต ช่วงที่เกิดโรคระบาด และนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความตามกฎหมาย เพื่อให้ประสานหน่วยงาน ป.ป.ช.,สตง. ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ได้มีเจตนาที่จะให้ร้ายใคร และไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ตนเห็นว่าช่วงมีข่าวโรคโควิดระบาด หลายหน่วยงานแห่จัดซื้อจัดจ้างคึกคัก จึงมองว่าเป็นการฉวยโอกาส และเกรงว่าจะมีการเรียกรับผลประโยชน์ ในฐานะประชาชน จึงต้องการให้ มีการตรวจสอบ หากตรวจสอบแล้วไม่พบปัญหา หรือเป็นการจัดซื้อที่ถูกต้อง ตนก็ไม่ติดใจขอให้ มีการตรวจสอบ แต่หากพบทุจริตหรือเอื้อต่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ขอให้เอาผิดตามกฎหมาย และขอให้นครพนมเป็นตัวอย่างนำร่องตรวจสอบ เพราะทุกบาทคือภาษีประชาชน ซื้อแล้วต้องคุ้มค่าไม่แพงเกินจริง
ด้าน นายสมเกียรติ ศิริตัน ปลัด อบจ.นครพนม เปิดเผยว่า ในการจัดซื้อจัดจ้าง การจัดซื้อเทอร์โมสแกน ของ อบจ.นครพนม รวมถึงวัสดุครุภัณฑ์ที่จะนำไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ ในการเพิ่มมาตรการดูแลเข้มงวดการสกัดกั้นโรคโควิด ทั้ง 12 อำเภอ ยืนยันทำตามขั้นตอนของกฎหมาย สามารถทำได้ตามนโยบายรัฐบาล และเป็นอำนาจของผู้บริหาร นายก อบจ.นครพนม ซึ่งใช้งบประมาณของ อบจ.นครพนม โดยช่วงเกิดโรคโควิดระบาด ส่วนการจัดซื้อไม่ได้มีการประกวดราคา เนื่องจากในภาวะวิกฤตสามารถดำเนินการเร่งด่วนได้เลย ส่วนราคาจัดซื้อจัดจ้าง เราคำนึงถึงราคามาตรฐาน และต้องการให้เกิดประโยชน์ ต่อประชาชนมากที่สุด ทาง อบจ.ฯ พร้อมให้มีการตรวจสอบ
ขณะที่ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ระหว่างลงพื้นที่อำเภอบ้านแพง เพื่อมอบเครื่องเทอร์โบสแกนแก่ชุมชน หมู่บ้าน ว่า ทราบข่าวจากทางสื่อโทรทัศน์แล้ว ไม่รู้สึกหนักใจเพราะทำตามระเบียบขั้นตอนทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้ ส่วนผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษอ้างเป็นคนจังหวัดนครพนมนั้น ตนพร้อมยินดีให้มาสอบถามข้อเท็จจริงได้ทุกเวลา แต่ลึกๆ เชื่อว่ามีการเตรียมการมาอย่างดี เจตนาจงใจจะดิสเครดิตลดความน่าเชื่อถือของนายก อบจ.ฯ มากกว่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: