นครพนม – 7 ทหารตีนโหดย่องขอขมาศพ วิญญาณเหยื่อเฮี้ยน !! สิงร่างญาติถาม”ฆ่ากูทำไม” พร้อมฝากดูแลพ่อแม่
กรณี นายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 บ้านยางคำ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และน้องชายนายนัตพงศ์ ซ้ายซา หรือแดง อายุ 29 ปี ถูกทหารสังกัดศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) บุกอุ้มจากกระท่อมท้ายหมู่บ้านไปเค้นสอบอย่างหฤโหดในฐานปฏิบัติการชั่วคราว ภายในวัดกัณตะศิลาวาส หรือวัดหลวงปู่กินรี พระป่าสายธรรมยุต ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม ด้วยการกระทืบจนสลบเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซึ่งสองพี่น้องปฏิเสธรับว่าเสพอย่างเดียวไม่ได้ค้า กลุ่มทหารไม่เชื่อนำตัวโดยแยกไปกระทืบ กระทั่งนายยุทธนาหรือด่อนเสียชีวิต ส่วนนายนัตพงศ์บาดเจ็บสาหัส ซี่โครงขวาหัก 2 ซีก มีเลือดคั่งอยู่ในช่องท้อง ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการส่งศพนายด่อนผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เบื้องต้นมีสมองบวมและปอดเขียวช้ำ โดยญาติผู้สูญเสียตั้งตารอดูว่าทหารที่รุมทำร้ายจะมาขอขมาศพหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 21 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียชีวิตว่า เวลาประมาณ 06.30 น. ทหารทั้ง 7 นาย ที่ถูกกล่าวหารุมทำร้ายนายด่อนจนถึงแก่ความตาย ได้ย่องเงียบมาขอขมาศพแล้ว โดยอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวที่ไม่มีคนอยู่มากนัก และเมื่อเข้ามาถึงก็จุดธูปไหว้ศพ และไม่พูดคุยหรือทักทายกับผู้ใด หลังจากนั้นก็รีบเดินทางกลับทันที
ระหว่างที่ทหารทั้ง 7 นาย กำลังสวมรองเท้าอยู่หน้าบ้าน ปรากฏว่านางปัญจา บุญเสริม หรือกิ้ม อายุ 56 ปี มีศักดิ์เป็นน้องสาวของนายนิวัฒน์ ซ้ายซา พ่อของผู้ตาย ซึ่งอยู่ข้างโลงศพของหลานชาย มีอาการสั่นคล้ายถูกผีเข้า พร้อมกับพูดคำแรกว่า “กูอยากเตะคนเด้..พวกมึงฆ่ากูเฮ็ดหยัง..” ขณะนั้นนางแต้ สำลี อายุ 49 ปี ญาติอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก็เข้าไปประคอง นางกิ้มบอกอยากกินเบียร์ ญาติจึงไปค้นหามาได้ 1 กระป๋อง นางกิ้มก็ยกซดรวดเดียวจนหมด พร้อมหันมาบอกกับญาติๆ ที่อยู่ในที่นั้น ว่า “ฝากดูแลพ่อแม่เฮาด้วยนะ” โดยนางแต้เห็นอากัปกิริยาท่าทางต่างๆ รู้ทันทีเลยว่านี้คือนายยุทธนาหลานชาย ทุกคนบอกไม่ต้องเป็นห่วงจะดูแลอย่างดี และถามต่อว่า”หำเอ้ยเอาบัตรประชาชนไปไว้ที่ไหน” นายยุทธนาในร่างของนางกิ้มตอบอยู่ในเต็นท์ที่กระต๊อบ ญาติถามอีกตอนนี้ตัวเองอยู่ไหน ก็ตอบกลับว่าอยู่ที่กระต๊อบไม่ได้ไปไหน คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างหลั่งน้ำตาให้นายยุทธนาไปสู่สุคติ ก่อนดวงวิญญาณจะออกจากร่างยังย้ำให้ดูแลพ่อแม่ของตน แล้วบอกว่าเฮาไปล่ะนะ ร่างนางกิ้มก็หงายผึ่งไม่ได้สติ ญาติๆ จึงต้องพาไปพักผ่อนที่บ้านอีกหลังหนึ่ง
ข่าวน่าสนใจ:
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
ด้าน นายนิวัฒน์ ซ้ายซา กล่าวว่า ตอนที่ทหารทั้ง 7 นาย มาขอขมาศพ ตนเกิดอาการหน้ามืดจึงไปนอนอยู่ในเต็นท์ทำกับข้าว และไม่รู้ว่าคู่กรณีมาตอนไหน กระทั่งรู้สึกดีขึ้นจึงมีคนเล่าให้ฟัง “หากย่องมาแบบนี้ไม่รู้จะมาทำไม” นายนิวัฒน์ กล่าว
ต่อมา นางปัญจาหรือกิ้มได้สติกลับคืนมา ก็เปิดเผยว่าก่อนจะมีอาการดังกล่าว ได้กลิ่นเหม็นเหมือนศพโชยมา จึงถามคนที่อยู่ใกล้ๆ ว่า มีใครได้กลิ่นสาบอะไรไหม ทุกคนส่ายหัวกระทั่งทหาร 7 นาย มาตนก็เริ่มมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ ตามความเชื่อทุกคนมั่นใจว่านายยุทธนาหรือด่อน รอคอยการมาขอขมาของผู้ที่ร่วมกันกระทำจนถึงแก่ความตาย
และก็เกิดสิ่งเหลือเชื่อ มีคนไปค้นหาบัตรประชาชนของนายยุทธนาในเต็นท์ตามที่สิงร่างนางกิ้ม ปรากฏว่าเจอบัตรประชาชนอยู่ในนั้นจริงๆ ทุกคนต่างขนลุกซู่ไปตามๆกัน และยังเชื่ออีกว่าวิญญาณของผู้ตายยังไม่ไปไหน คงวนเวียนอยู่แถวสวนยางพารานั้น ส่วนวันฌาปนกิจศพจะมีขึ้นในวันที่ 23 เมษายน นี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: