นครพนม – พ่อเหยื่อทหารซ้อมตาย ไม่ยอมเผาศพ จนกว่าจะชัดเจนเรื่องเยียวยา เผยไม่มีกำหนด ตำรวจยังเร่งสอบสรุปหลักฐาน รอแจ้งข้อหาทหารโหด
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 22563 กรณี นายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 12 หมู่ 6 บ้านยางคำ ต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และน้องชายนายนัตพงศ์ ซ้ายซา หรือแดง อายุ 29 ปี ถูกทหารสังกัดศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายเเดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) บุกอุ้มจากกระท่อมท้ายหมู่บ้านไปเค้นสอบอย่างหฤโหดในฐานปฏิบัติการชั่วคราว ภายในวัดกัณตะศิลาวาส หรือวัดหลวงปู่กินรี พระป่าสายธรรมยุต ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม ด้วยการกระทืบจนสลบเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ซึ่งสองพี่น้องปฏิเสธรับว่าเสพอย่างเดียวไม่ได้ค้า กลุ่มทหารไม่เชื่อนำตัวโดนแยกไปกระทืบ กระทั่งนายยุทธนาหรือด่อนเสียชีวิต ส่วนนายนัตพงศ์บาดเจ็บสาหัส ซี่โครงขวาหัก 2 ซีก มีเลือดคั่งอยู่ในช่องท้อง ภายหลังพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการส่งศพนายด่อนผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เบื้องต้นมีสมองบวมและปอดเขียวช้ำ ขณะที่ทหารคู่กรณีจำนวน 7 นาย อาศัยช่วงจังหวะที่ปลอดคนย่องมากราบขอขมาศพ ลักษณะรีบมารีบไป โดยไม่ได้ทักทายหรือคุยอะไรกับญาติของผู้ตายแม้แต่คำเดียว ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด นายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ได้ออกมายืนยันว่า เกี่ยวกับการประกอบพิธีฌาปนกิจศพลูกชายที่เสียชีวิต หลังนำมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพัก ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2563 หลังนำศพกลับมาจากชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เบื้องต้นผลผ่าพิสูจน์มาจากการถูกทำร้ายร่างกาย ทำให้สมองกระทบกระเทือน และปอดบวมช้ำ ซึ่งยังรอตำรวจสรุปหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี แต่หลังได้หารือญาติพี่น้อง เดิมจะประกอบพิธีเผาศพในวันที่ 23 เมษายน 2563 แต่พิจารณาดูแล้ว ยังติดใจ เรื่องเงินเยียวยาที่เสนอไป คือต้องการให้เยียวยา เป็นเงิน 5 ล้านบาท และจะต้องมีการตกลงเจรจา เป็นที่พอใจ และมีการตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร จึงจะยอมเผาศพลูกชาย เกรงว่า จะเกิดปัญหาภายหลัง โดยเลื่อนไม่มีกำหนด ส่วนการดูแลด้านอื่นๆ ตนพอใจและขอขอบคุณทางหน่วยงานทั้งทหาร ตำรวจ ที่ให้การดูแล ช่วยเหลือ ครอบครัว เบื้องต้น รวมถึงการจัดงานศพ ได้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ขอให้เข้าใจว่า การสูญเสียครั้งนี้ กระทบความเป็นอยู่ครอบครัว เพราะลูกชาย เป็นส่วนสำคัญในการทำงานเลี้ยงครอบครัว เพราะตนแก่ชรา อีกทั้งมีโรคประจำตัวลิ้นหัวใจรั่ว ส่วนลูกชายอีกคน กว่าจะหายเป็นปกติ ไม่รู้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน สิ่งที่เรียกร้องไป บอกเลยไม่คุ้ม แต่เป็นสิ่งที่หน่วยงานทหารจะต้องแสดงความรับผิดชอบ ในเรื่องการเยียวยาชดเชย ส่วนในเรื่องของคดี ให้เป็นไปตามกระบวนการ ตามกฎหมาย
ส่วน พ.ต.อ.ศรีนคร นัยวัฒน์ ผกก.สภ.ธาตุพนม เปิดเผยความคืบหน้าคดี ว่า เกี่ยวกับการดำเนินคดีหลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ทางพนักงานสอบสวน ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ตามขั้นตอน ทั้งสอบสวนพยาน รวบรวมหลักฐาน สิ่งสำคัญที่ต้องรอสรุปยืนยัน คือผลตรวจของสถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ที่จะต้องส่งหนังสือรับรองมาเป็นทางการ หลังผ่าชันสูตรศพ จากนั้นจะได้นำมาประกอบผลการตรวจรักษาร่างกายของคนเจ็บ รวมถึงการสอบสวนบุคคลเกี่ยวข้อง กลุ่มทหารที่ถูกกล่าวหาก่อเหตุ ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณอีกสัปดาห์ จนกว่าจะครบถ้วนสมบูรณ์ จากนั้นจะได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อแจ้งให้ ทหารเกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา เบื้องต้นมีข้อหาความผิดหลัก คือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้กระทำผิดจะมีกี่คน จะต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ตามข้อเท็จจริง ที่เชื่อมโยงยังไม่สามารถสรุปยืนยันได้ชัดเจน เกี่ยวกับผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตามทางตำรวจกำลังเร่งดำเนินการตามขั้นตอนให้เร็วที่สุด และขอให้มั่นใจจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทุกอย่างจะต้องทำตามกระบวนการ มีระยะเวลา มีขั้นตอน ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นจะได้ประศาลทหารพระธรรมนูญ มาร่วมสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
