นครพนม – หลานสาววัย 5 ขวบ เผยนาทีสยอง !! หมวดป่วยซึมเศร้าอัตวินิบาตกรรม 2 ศพ ญาติยันรักครอบครัวมาก เหตุขาดยาจึงคิดสั้น
กรณี ร.ต.ท.สมพงษ์ วรสาร อายุ 61 ปี อดีตตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) สังกัดกองร้อย ตชด.235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. อัตวินิบาตกรรม ต่อหน้าหลานสาวอายุ 5 ขวบ ยิงนางราตรี วรสาร อายุ 67 ปี ผู้เป็นภรรยา ในบ้านเลขที่ 103 หมู่ 8 บ้านหนองกุดแคน ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม ก่อนจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวยิงตัวตายตาม สาเหตุเกิดจากป่วยเป็นโรคจิตเวชและขาดยามาหลายวัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบ้านหนองกุดแคน ในศาลาพักศพใกล้กับเมรุเผาศพ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพสองผัวเมีย โดยมีเพื่อนตำรวจรุ่นเดียวกันและญาติมาตระเตรียมงาน เพื่อจะฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้(12 พค.) บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นางจันทร์เพ็ญ ชีโว อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ตรงข้ามกับบ้านหลังที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า สองผัวเมียคู่นี้มีอัธยาศัยดีไม่ไหนก็มักจะไปด้วยกัน ไม่เคยมีเรื่องระหองระแหงใดๆ วันเกิดเหตุมีเสียงปืนดัง พร้อมกับมีน้องอันดา(นามสมมุติ)หลานสาววิ่งหน้าตาตื่นร้องไห้ว่าปู่ยิงย่า เมื่อไปดูก็พบทั้งสองชีวิตแล้ว
ด้าน นายธีระวัฒน์ ทองไมล์ อายุ 28 ปี ลูกบุญธรรมของผู้ตาย กล่าวเพิ่มเติมว่าพ่อกับแม่ไม่เคยทะเลาะกัน เหตุที่พ่อเออรี่ออกจากราชการก่อนเกษียณอายุ เพราะป่วยด้วยโรคซึมเศร้า แม่ก็ดูแลพาไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชฯนครพนม รับยามาทานทุกเดือน โดยรวมพ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด ขณะเกิดเหตุตนพักอยู่อีกบ้านหลังหนึ่ง จนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ดังมาจากทางบ้านพ่อกับแม่ วิ่งไปดูพบท่านทั้งสองนอนจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว
ขณะที่ นางสาวรฐาณิษฐ์ มหุวรรณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 8 บ้านหนองกุดแคน ลูกสะใภ้ของผู้ตาย และเป็นแม่ของน้องอันดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยรายละเอียดว่าบ้านหลังดังกล่าวมีพ่ออยู่กับแม่เพียงลำพังสองคน ส่วนลูกหลานก็แยกบ้านไปปลูกในละแวกใกล้เคียงกัน ยอมรับว่าลูกๆเผลอไผล เพราะไม่เอาอาวุธปืนกระบอกมรณะให้พ้นมือพ่อ แต่ด้วยที่พ่อแม้ไม่ค่อยพูดมากนัก ก็มีอารมณ์ยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอ ไม่มีใครคาดคิดว่าพ่อจะกระทำเช่นนี้
วันเกิดเหตุน้องอันดาลูกสาวได้ไปเล่นที่บ้านปู่ย่า ซึ่งเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ต้องมาหาปู่กับย่า ถ้าไม่ไปก็จะมาตาม โดยลูกสาวเล่าว่าได้นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องนอน เห็นปู่ไปหยิบปืนเดินผ่านหน้าห้องไป เมื่อชะโงกหน้าดูเห็นปู่จ่อยิงศีรษะย่าในระยะเผาขน ก่อนจะนั่งลงจ่อยิงตัวตายตาม ลูกสาวกรีดร้องด้วยความตกใจ วิ่งออกมาบอกคนที่อยู่ละแวกนั้นทันที “วันเกิดเหตุถ้ามีใครถามเรื่องนี้ลูกสาวจะร้องไห้ทันที เราไม่อยากให้เขาสะเทือนใจจึงไม่ถามอีก แต่พอตื่นเช้ามาก็ถามว่าปู่กับย่าตื่นหรือยัง…” น.ส.รฐาณิษฐ์ กล่าว ซึ่งยังกล่าวเพิ่มเติมต่อว่า อยากให้นักจิตวิทยามาให้คำแนะนำในการดูแลจิตใจลูก เกรงในอนาคตเขาจดจำภาพหฤโหดเหล่านี้ ทำให้อาจกลายเป็นคนก้าวร้าว
