นครพนม – ไล่กล้องวงจรปิดล่าเก๋งนิรนาม ชนแล้วหนีหนุ่มบึงกาฬ ลือเจ้าที่แรง 2 เดือน ตายสยองสองศพ
กรณี นายไทยรัฐ ปัญญาบุตร อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 167 หมู่ 16 บ้านใหม่ภูเจริญ ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีขาวคาดน้ำเงิน ทะเบียน กทง 194 นครพนม จอดอยู่เลนเกาะกลางที่ยังไม่ได้ตีเส้นจราจร เพราะอยู่ในระหว่างขยายเป็นถนนสี่เลน เพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (สกลนคร-นครพนม) ช่วงปากทางเข้า ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม ปรากฏว่ามีรถไม่ทราบชนิดและยี่ห้อพุ่งเข้าชนกลางลำ ลากทั้งคนและรถครูดไปกับถนนไกลประมาณ 100 เมตร เสียชีวิตคาที่ ส่วนรถคู่กรณีหลังก่อเหตุได้เร่งเครื่องหลบหนีไปในเส้นทางเข้าตัวจังหวัดนครพนม ทิ้งหลักฐานเป็นพลาสติกสีดำรองใต้ห้องเครื่อง ความยาวขนาด 80 ซม. กว้าง 50 ซม.ตกอยู่กับศพผู้ตาย คาดว่าเป็นอุปกรณ์ของรถเก๋ง เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.20 น. วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับทราบจาก พ.ต.ท.วีระชัย สมประสงค์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ว่า หลังเกิดเหตุได้ทำบันทึกเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้หมดแล้ว พร้อมติดต่อญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ส่วนรถยนต์คู่กรณีที่ชนแล้วหนี กำลังไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ เพื่อนำมาประกอบคดีว่าช่วงเวลาเกิดเหตุก่อนและหลังเคอร์ฟิว มีรถยนต์ต้องสงสัยคันไหนวิ่งมาบ้าง คาดว่าจะทราบภายในเร็ววันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 บริเวณดังกล่าวเพิ่งเกิดเหตุสะเทือนใจมาแล้ว จากการที่น.ส.อุบล โมคลา อายุ 45 ปี อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) บ้านด่าน หมู่ 2 ต.กุรุคุ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง ทะเบียน กกฎ 7887 นครพนม ลักษณะเหมือนกับที่นายไทยรัฐจอดรออยู่เลนเกาะกลาง แล้วถูกรถเก๋งพุ่งชนเสียชีวิตคาที่
และเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2563 ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุได้มีพิธีเปิดปั๊มน้ำมันแห่งใหม่ ขณะที่พราหมณ์กำลังทำพิธีบวงสรวงอยู่นั้น ผู้มาร่วมงานได้ถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ปรากฏว่าเมื่อนำภาพกลับมาดูอีกครั้ง ปรากฏมีภาพถ่ายติดศีรษะคนอยู่ท้ายรถกระบะ ชาวบ้านจึงพาเชื่อกันว่าบริเวณดังกล่าวคงจะมีเจ้าที่แรง หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์รถยนต์ชนจักรยานยนต์ตายแล้ว 2 ศพ เว้นช่วงระยะห่างเพียงแค่ 2 เดือนเท่านั้น
