นครพนม – สพม.22 ยันเปิดเทอมใหม่ไม่ขาดครู เดินหน้าสอบวินัยอย่างร้ายแรง 5 ครูโฉดกาม ผอ.รร.อาจเจอหางเลขโดน ม.157 สั่งครูหญิงโลกสวยชี้แจง
สืบเนื่องจาก หญิงวัย 57 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กหญิงอายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.ต้น โรงเรียนดงมอนวิทยาคม ต.ดงมอน อ.เมือง จ.มุกดาหาร แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ผึ่งแดด เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.นายวิพจน์ อายุ 35 ปี 2.นายยุทธนา อายุ 36 ปี 3.นายอานุภาพ อายุ 33 ปี 4.นายสิทธิ์นันท์ อายุ 25 ปี 5.นายเอกลักษณ์ อายุ 35 ปี 6.นายชนะศักดิ์ อายุ 21 ปี และ 7.นายพีรพงษ์ อายุ 21 ปี โดยสองรายหลังเป็นศิษย์เก่ารุ่นพี่ ต่อมาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22 (สพม.22) ซึ่งรับผิดชอบจังหวัดนครพนม และ มุกดาหาร ได้มีคำสั่งให้ครูทั้ง 5 คน ออกจากราชการไว้ก่อน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
คืบหน้าล่าสุด วันที่ 13 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สพม.22 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนปิยะ เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อพบกับ นายจักราวุธ สอนโกษา ผอ.สมพ.22 กรณีหลังจากให้ครูที่ถูกกล่าวหาออกจากราชการฯแล้ว จะมีผลกระทบต่อการเรียนการสอนช่วงเปิดภาคเรียนการศึกษาในปี 2563 นี้หรือไม่
โดย นายจักราวุธ สอนโกษา ผอ.สมพ.22 กำลังหารืออยู่กับนายอิทธิพัทธิ์ อรรคสาร รอง ผอ.สมพ.22 นายฉัตรณรงค์ วงศ์พนารัตน์ ผอ.กลุ่มกฎหมายและคดี และนางละม่อม ศิริสวัสดิ์ ผอ.กลุ่มบริหารงานบุคคล เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอยู่ในห้องทำงานพอดี จึงได้รับคำชี้แจงว่า สพม.22 ทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจฯลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงร่วมกับศึกษาธิการจังหวัดมุกดาหารทันที หลังทราบแน่ชัดว่ามีครู 5 คน พัวพันในคดีข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์ของตนจริง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ศึกษาธิการจังหวัดมุกดาหารได้สั่งให้ออกราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง โดยแยกกันคนละส่วนจะไม่เกี่ยวกับคดีอาญาที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ และระหว่างให้ออกจากราชการ ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คน ถือว่าได้ขาดจากการเป็นราชการแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
ผอ.สพม.22 กล่าวต่อว่า การเปิดภาคเรียนประจำปี 2563 เดิมโรงเรียนบ้านดงมอน มีครูรวมทั้งสิ้น 22 คน คิดตามสัดส่วนของนักเรียนแล้ว ยังเกินไปถึง 4 อัตรา เมื่อให้ออกไป 5 คน จึงขาดเพียง 1 อัตรา เท่านั้น แต่ช่วงโรคโควิด-19 ระบาด อาจจะปรับให้เรียนผ่านระบบออนไลน์ ที่บ้านหรือที่โรงเรียน ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ โดยจะปรับใช้สิ่งที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้การตัดสินใจจัดการเรียนการสอนต่างๆ จะอยู่บนพื้นฐานการสำรวจความต้องการของครู นักเรียน ผู้ปกครอง ปรับตารางเรียนตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงการให้ความรู้ตามช่วงวัย บุคลาลากรทางได้ศึกษา ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
นอกจากนี้ที่มีครูผู้หญิงคนหนึ่ง ออกมาให้กำลังใจครูผู้ชายทั้ง 5 คน และกล่าวหาว่าเด็กหญิงผู้ถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศ เป็นเด็กดื้อฯลฯ ตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณพร้อมคำสาปแช่งต่างๆ นาๆ ผอ.สมพ.22 กล่าวว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของครูคนนั้น ถ้าถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ตนเองเห็นว่าไม่เหมาะสม ควรแยกให้ออกระหว่างความดีกับความชั่ว ตอนนี้ให้เขียนรายงานชี้แจงแล้ว เบื้องต้นอาจจะแค่ว่ากล่าวตักเตือนก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายราชัน อาจวิชัย ผอ.ร.ร.บ้านดงมอนวิทยาคม ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชาของครูโฉดกามทั้ง 5 ก็อาจถูกตั้งกรรมการสอบสวนว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย
ด้ายนายธวัชชัย ไทยเขียว อดีตอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นว่า ทำไมสถานศึกษาจึงไม่ไปแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีทางอาญาหรือเป็นโจทก์ร่วมกับผู้ปกครอง
นายธวัชชัยกล่าวว่า สถานศึกษาถือเป็น “ผู้ปกครอง” ตามความหมายแห่ง พรบ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ด้วยเนื่องจากสถานที่ให้การศึกษาเป็น “สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ” ตาม พรบ. ดังกล่าว แต่ไม่เคยเห็นสถานศึกษาไปแจ้งความดำเนินคดีกับครูหรือบุคลากรทางการศึกษาคู่กับการดำเนินการวินัย โดยเฉพาะในกรณีครูหรือบุคลากรทางการศึกษาล่วงละเมิดเด็กหรือเยาวชนในสถานศึกษาของตนเอง และมักปล่อยให้เป็นภาระของผู้ปกครอง อย่างนี้ผู้อำนวยการสถานศึกษาเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม. 157 ป. อาญาหรือไม่
โดยส่วนตัวเห็นว่าสถานศึกษาควรไปแจ้งความดำเนินคดีกับครูหรือบุคลากรทางการศึกษาที่กระทำผิดดังกล่าวด้วยฯ ไม่ควรปล่อยให้ผู้ปกครองสู้โดยลำพัง อย่างน้อยก็เป็นการแสดงความรับผิดชอบ และผู้ปกครองบางคนไม่มีศักยภาพในทุกๆ ด้าน บางคนยังโดนข่มขู่ด้วย
พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ระบุดังนี้ “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา ผู้อนุบาล ผู้รับบุตรบุญธรรม และผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้หมายความรวมถึงพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยง ผู้ปกครองสวัสดิภาพ นายจ้าง ตลอดจนบุคคลอื่นซึ่งรับเด็กไว้ในความอุปการะเลี้ยงดูหรือซึ่งเด็กอาศัยอยู่ด้วย
“สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ” หมายความว่า สถานที่ให้การศึกษา อบรม ฝึกอาชีพ เพื่อแก้ไขความประพฤติ บำบัด รักษา และฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจแก่เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
