นครพนม – จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม นำหมายศาลจังหวัดนครพนม ที่ จ.59/2653 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เข้าจับกุมตัวนายวีระชัย คำแพงดี อายุ 52 ปี เป็นครูโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม อยู่เลขที่ 39/2 หมู่บ้านอัมพร 3 ถนนบายพาสท่าควาย-น้อยหนองเค็ม เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยต้องหาว่ากระทำความผิด 1.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 2.กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 3.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่น ซึ่งมิใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ 4.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะล่วงล้ำอวัยวะเพศของเด็กนั้นโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม 5.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้วัตถุหรืออวัยวะอื่นซึ่งมิใช่อวัยวะล่วงล้ำอวัยวะเพศของเด็กนั้นโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม รวม 5 ข้อกล่าวหา เบื้องต้นนายวีระชัยปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด นายประหยัด วังวร ผอ.โรงเรียนต้นสังกัดของนายวีระชัย คำแพงดี ที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนหลานต่อเนื่องนานกว่าสามปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหยุดเรียนเนื่องจากโรคระบาดโควิด – 19 เพิ่งทราบเรื่องนี้ตอนที่ผู้สื่อข่าวมาสอบถามนี่เอง อย่างไรก็ตามหากเป็นจริงตนก็จะรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นเพื่อตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมจะเสนอให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างทำการสอบสวน
โดยนายประหยัด เปิดเผยว่านายวีระชัย คำแพงดี เป็นเพียงพนักงานราชการ ทำหน้าที่ปฏิบัติงานสอน ในวิชาการงานอาชีพ (เกษตรอุตสาหกรรม) สอนนักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.6 โดยทำงานมากว่าสิบกว่าปี แต่ยังไม่ได้บรรจุเป็นข้าราชการประจำโดยจะมีสัญญาจ้างปีต่อปี ปกติก็เห็นนายวีระชัย ขยันขันแข็งมาทำงานพร้อมภรรยาทุกวัน ซึ่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนเดียวกัน ไม่คิดว่านายวีระชัยจะมีพฤติกรรมแบบนี้ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นตนก็จะเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงประกอบกับการตั้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่ายต่อไป
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ทราบข้อมูลเชิงลึกว่า ด.ญ.เปิ้ลพื้นเพเป็นคนจังหวัดนครราชสีมา คุณพ่อทำงานรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ส่วนคุณแม่เป็นแม่บ้าน มีพี่น้องสองคนเป็นหญิงทั้งคู่ ผู้เสียหายเป็นคนโต โดยระหว่างเรียนอยู่ชั้น ป.6 พ่อแม่ก็แยกทางกัน และต้องหาที่เรียนในระดับมัธยมต้นให้ลูก ซึ่งคุณพ่อเห็นว่ามีพี่สาวเป็นครูอยู่โรงเรียนชื่อดังในจังหวัดนครพนม และสามีก็เป็นครูอยู่ที่เดียวกัน จึงเห็นพ้องกันว่าน่าจะเอาลูกสาวไปฝากลุงกับป้าไว้ จึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวในชั้น ม.1
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
วันหนึ่งขณะผู้เสียหายนั่งดูการ์ตูนอยู่ในห้อง และไม่มีใครอยู่บ้าน นายชัยหรือลุงชัย ได้เปิดประตูเข้ามาถามว่าดูหนังเอ็กซ์อยู่เหรอ จึงตอบกลับว่าดูการ์ตูนจ๊ะ นายชัยจึงอ้างขอดูด้วยคน ด.ญ.เปิ้ลบอกให้ออกไปอย่ามายุ่งเรื่องของเด็ก แต่นายชัยเดินไปล็อกห้องแล้วใช้กำลังบังคับขืนใจจนสำเร็จความใคร่ และข่มขู่ว่าอย่านำเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด มิฉะนั้นจะไม่ได้เรียนหนังสือ ด้วยความกลัวจึงเก็บงำเรื่องบัดสีดังกล่าวไว้ เป็นเหตุให้นายชัยได้ใจอาศัยช่วงไม่มีใครอยู่บ้านย่องเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราเรื่อยมาจนถึงเตรียมขึ้นเรียนชั้น ม.4 ในเทอมปีการศึกษา 2563 นี้
แหล่งข่าวเล่าต่อว่าหลังถูกย่ำยี ด.ญ.เปิ้ลบ่นเปรยๆ กับแม่หลายครั้งว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่แม่ก็ปลอบว่าอยู่กับลุงกับป้าดีแล้ว กระทั่งต้นเดือนพฤษภาคม 2563 ด.ญ.เปิ้ลคุยวีดีโอคอลกับยายและญาติผู้หญิงในวัยเดียวกันที่อยู่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างนั้นนายชัยก็เปิดประตูห้องเข้ามา พร้อมดุด่ากล่าวหาว่าคุยกับผู้ชาย แล้วปิดประตูกระแทกเสียงดัง ญาติจึงถามทำไมลุงอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ซึ่ง ด.ญ.เปิ้ลตอบกลับว่าตนโดนหนักยิ่งกว่านี้อีก คุยไปคุยมาก็เปิดปากเล่าว่าถูกกระทำย่ำยีมาตั้งแต่อยู่ ม.1 ญาติผู้นั้นจึงนำเรื่องดังกล่าวไปเล่าให้นางแน่งน้อยผู้เป็นแม่ของ ด.ญ.เปิ้ลฟัง จากนั้นนางแน่งน้อยจึงรีบเดินทางมาจังหวัดนครพนม เพื่อนำลูกสาวออกจากบ้านหลังดังกล่าว โดยไม่บอกล่ำลาผู้ใด จนภรรยาของนายชัยโทรศัพท์ไปต่อว่าทำไมไม่บอกกล่าวกันบ้าง นางแน่งน้อยจึงเล่าว่าสามีคุณพี่กระทำกับลูกตนเองรุนแรงมาก แต่ภรรยาของนายชัยยังไม่ปักใจเชื่อว่าสามีจะเป็นเช่นนั้น และนางแน่งน้อยได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังตรวจร่างกายเสร็จก็รีบเดินทางกลับจังหวัดนครราชสีมา เพราะเกรงจะได้รับอันตราย พนักงานสอบสวนจึงต้องประสานกับสหวิชาชีพสอบปากคำอยู่ที่นั่น ก่อนจะกลับมาขออนุมัติหมายจังนายชัยดังกล่าว
เพื่อนคนสนิทของนายชัยผู้ต้องหา เล่าว่าจากการไปสอบถามนายชัยในห้องขัง ผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.เปิ้ลตามที่ถูกกล่าวหา เบื้องต้นเกิดจากเด็กไม่ค่อยช่วยงานบ้าน จึงมักถูกดุด่าเป็นประจำ เพราะอ้างว่าเด็กมั่วแต่เล่นโทรศัพท์และคุยกับผู้ชาย บางครั้งขับรถจักรยานยนต์ออกไปหาผู้ชายข้างนอก จนลุงกับป้าต้องเอากุญแจรถไปซ่อน จากเหตุนี้หรือเปล่าจึงทำให้เด็กมีความไม่พอใจจึงสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้าย หากผลการสอบสวนออกมาว่านายชัยบริสุทธิ์ก็จะฟ้องกลับสองแม่ลูกคู่นี้ทันที
รายงานข่าวล่าสุด ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี เตรียมจะนำตัวนายวีระชัย คำแพงดี ผู้ต้องหา ฝากขังผัดแรกต่อศาลจังหวัดนครพนม ในเวลาบ่ายวันนี้ (29 พค.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว เหตุที่ฝากขังเร็วเพราะผู้ต้องหาไม่ยอมให้ปากคำในชั้นพนักงานสอบสวน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: