นครพนม – หอการค้านครพนม ห่วงรัฐบาลทุ่มเยียวยาโควิดสูญเปล่า แนะเร่งสร้างความมั่นใจ เผยตัวเลขการค้า ท่องเที่ยวชายแดนหาย ผู้ค้ารายย่อยเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือฟื้นฟู
นายสมนาม เหล่าเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าพื้นที่จังหวัดนครพนม ได้รับผลกระทบหนักจากโรคโควิด ถึงแม้จะได้รับผลกระทบช้ากว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ มีการติดต่อค้าขายในประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยว จะเป็นคนในประเทศเป็นหลัก แต่ต้องยอมรับว่าตัวเลขการท่องเที่ยวลดลงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งโรงแรมที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหาร ขาดรายได้ไม่มีคนเข้ามา ไปจนถึงภาคเศรษฐกิจการค้าชายแดนต้องชะงักลง ทำให้เม็ดเงินสูญหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 400 -500 ล้านบาท โดยตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถึงแม้มาตรการในด้านสาธารณสุขการควบคุมป้องกัน ถือว่าประสบความสำเร็จ มียอดผู้ป่วยสะสมเพียง 2 ราย ที่นำโรคโควิดมาจากต่างจังหวัด ถึงขณะนี้ตรวจไม่พบผู้ป่วยเพิ่ม หลังจากนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการวางแนวทางมาตรการฟื้นฟูภาคเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ถึงแม้ปัจจุบันทางรัฐบาล จะช่วยเหลือเยียวยา ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการจ่ายเงินเยียวยาให้กับประชาชน รวมถึงการสนับสนุนงบประมาณ เพิ่มวงเงินลงทุน ช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสถาบันการเงิน ตนในฐานะภาคเอกชน มองว่ายังน่าห่วง เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ปัญหาที่ตามมาคือประชาชนรากหญ้า ผู้ประกอบการรายย่อย เข้าไม่ถึง โดยเฉพาะการช่วยเหลือของกลุ่ม เอสเอ็มอี ยังมีเงื่อนไขในการขอรับการช่วยเหลือที่ยากจะเข้าถึง ยังมองว่าเป็นการอุ้มผู้ประกอบการรายใหญ่ แต่ในระดับจังหวัด ชุมชน ยังอยู่แถวหลัง มาถึงวันนี้สิ่งสำคัญที่สุดที่หอการค้าฯ รวมถึง ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน จะต้องหารือสร้างความร่วมมือให้เกิดความเข้มแข็ง เกี่ยวกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว เป็นหลัก เพราะหลังการคลายล็อกถึงแม้รัฐบาลจะช่วยเหลือ แต่หากไม่เกิดความเชื่อมั่นในพื้นที่ ก็ไม่เกิดประโยชน์ เนื่องจากจังหวัดนครพนม เป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยว การที่จะฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าได้ ต้องมีประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาเที่ยวพักผ่อน ค้าขายลงทุน
ประธานหอการค้าฯ กล่าวต่อว่า ดังนั้นสิ่งที่จะฟื้นฟูได้ ภาคเอกชน ต้องมีความเข้าใจในการวางมาตรการดูแลเข้มงวด คัดกรอง รวมถึงป้องกันการแพร่ระบาด ไม่ให้เกิดซ้ำ และสร้างความมั่นใจทุกรูปแบบ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด สำคัญที่สุดจะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่เพียงแค่อาศัยภาครัฐ ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องมีจิตสำนึกในการควบคุมดูแลร่วมกัน ให้เกิดความมั่นใจกับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ และจะต้องหารือร่วมกันให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อว่าจะสามารถฟื้นฟูได้ แต่ทางรัฐบาลยังมองแต่การสนับสนุนงบประมาณฟื้นฟูลงทุนรายใหญ่ แต่ผู้ประกอบการรายย่อย ประชาชน รากหญ้า เข้าไม่ถึงแหล่งทุนนั้น แม้จะกระตุ้นเม็ดเงินลงไปมากแค่ไหน แต่ไม่มีประชาชนออกมาจับจ่าย ท่องเที่ยว ค้าขาย สุดท้ายก็จะสูญเปล่า
