X

นึกว่าทางตรง  ระทึกหนุ่มบึงกาฬวัย 23 ปี ซิ่งกระบะพุ่งชนบ้านเก่าโบราณ 100 ปีพังยับ

นครพนม – เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 ต.ค.  ร.ต.ท.เจริญพร  รินทะระ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ชนบ้านเรือนประชาชนพังได้รับความเสียหาย  ที่บริเวณสามแยกถนนสุนทรวิจิตรตัดกับถนนเฟื่องนคร  บริเวณหอนาฬิกา ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เมือง จ.นครพนม หลังรับแจ้งจึงรุดไปพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ 191 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม

ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 213/215 ถนนสุนทรวิจิตร  ซึ่งเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้เก่าแก่โบราณสมัยฝรั่งเศสอายุกว่า 100 ปี ของนางวันเพ็ญ  แซ่เฮง วัย 67 ปี แม่บ้านธนาคารกรุงเทพฯ สาขานครพนม และแม่ค้าขายขนมครกถนนคนเดิน  สภาพหน้าบ้านพังเสียหาย  พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นพีรันเนอร์ 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กข 2189 บึงกาฬ  มีนายสุธิชัย  อินทะ วัย 23 ปี ชาว ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ  ยืนรอให้การด้วยความตื่นตระหนก

ส่วนสภาพหน้ารถที่ก่อเหตุพบว่ากระจังหน้ารถด้านซ้ายพังยับ  กระจกหน้าร้าว  พบเศษอิฐเศษปูนกองเต็มกระโปรงหน้ารถและหลังคารถ  ส่วนบ้านของนางวันเพ็ญ ที่ถูกรถกระบะของนายสุธิชัย พุ่งชน จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ามีคานรับน้ำหนักหน้าบ้านทรุดตัว   รถ จยย. รถจักรยาน เครื่องเสียง รถสามล้อเครื่องสกายแล็ป พร้อมเก้าอี้พลาสติก  และโต๊ะไม้มะค่าเก่า  ได้รับความเสียหายมูลค่าร่วม 1 แสนบาท

นางวันเพ็ญ เจ้าของบ้านผู้เสียหาย เล่าว่า ขณะนอนหลับพักผ่อนช่วงกลางดึกกับบุตรสาวรวม 3คน  ได้ยินเสียงคล้ายฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหว  ทีแรกก็นึกว่าบ้านรถพุ่งชนบ้านข้างเคียง  จึงลุกตื่นขึ้นมาดูก็พบว่าสภาพบ้านพังยับ  หลังจากนายสุธิชัย  คนขับรถชนบ้านพังแล้ว เมื่อได้สติได้ถอยรถออกจากตัวบ้านอย่างรวดเร็ว กระทั่งเจ้าหน้าที่คุมตัวไปสอบสวน  ซึ่งจะได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไกล่เกลี่ยคู่กรณีมาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า  รถกระบะของนายสุธิชัย ผู้ก่อเหตุ ขับจากถนนเฟื่องนคร  ด้วยความเร็วสูง  ขณะมาถึงสามแยกที่เกิดเหตุนึกว่าเป็นทางตรง  อีกทั้งเป็นคนต่างจังหวัดคาดว่าอาจจะไม่ชินเส้นทาง  ก่อนพุ่งชนหน้าบ้านทะลุตัวบ้านลึกเข้าไป 3-4 เมตร  หากไม่มีบ้านหลังนี้คั้นไว้รถคงจะพุ่งตกลงแม่น้ำโขง  โชคดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

หลังเกิดเหตุนายวรวิทย์  เจริญวัชระ  รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม  ได้นำเจ้าหน้าที่กองช่างมาเก็บซากอิฐและปูนที่พังทลายลงมา  พร้อมทั้งเร่งให้เจ้าหน้าที่นำเสามาค้ำยันคานไว้  หวั่นเกรงว่าอาจจะพังถล่มลงมา  เนื่องจากนางวันเพ็ญ เจ้าของบ้าน  ไม่อยากไปอาศัยอยู่ที่อื่น  เพราะเป็นห่วงข้าวของในบ้าน และต้องค้าขายขนมครกเป็นรายได้เสริมหน้าร้าน  ในช่วงถนนคนเดินวันศุกร์-วันอาทิตย์

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน