นครพนม – เกาะดอนแพง คืบหน้า !! ชาวบ้านร่วมเทศบาลฯ ชี้แนวเขตทำกิน ผญบ.รับจ๊อบประกาศให้ไปคุยซ้อใหญ่ แคลงใจข้าราชการบางคนใส่เกียร์ว่าง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการครอบครองที่ดินเกาะดอนแพง ซึ่งเกิดจากตะกอนดินในแม่น้ำโขงไหลมาทับถมจนเกิดเป็นพื้นดินขนาดใหญ่ มีเนื้อที่เกือบ 5 พันไร่ ครอบคลุมพื้นที่บ้านหัวหาด หมู่ 12 จรดบ้านท่าลาด หมู่ 9 ต.บ้านแพง เขตเทศบาลตำบลบ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม ระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งเหมาะแก่การทำเกษตรทุกชนิด โดยเกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกพืชประจำถิ่น เช่น ใบยาสูบ มะเขือเทศ ข้าวโพดหวาน ฟักทอง แตงกวา พริกฯลฯ ปรากฏว่ามีคหบดีมีชื่อโผล่เข้าไปครอบครองที่ดินดังกล่าวมากถึง 62 แปลง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 13 กรกฎาคม 2563 นายดนัย สิทธิวัชระชัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแพง มีหนังสือที่ นพ 52511 แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 และหมู่ 11 อ้างถึงหนังสือฯ ที่ นพ 52511/ว 482 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2563 กรณีได้ขอความอนุเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เขตพื้นที่เทศบาลตำบลฯ ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกร ประชาชน ที่ทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐ”เกาะดอนแพง” มาลงทะเบียนในที่ดินที่ทำประโยชน์ สำหรับที่ดินส่วนที่ 1 พื้นที่ 2,429 ไร่ และส่วนที่ 2 พื้นที่ประมาณ 690 ไร่ ซึ่งเทศบาลฯยังไม่ดำเนินการจัดทำแผนผังการจัดหาผลประโยชน์ นั้น
และเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ประชาชน ที่ทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐเกาะดอนแพง ในส่วนที่ 2 บริเวณท่ากกไฮ ติดร่องบุ่งทางทิศตะวันออก จึงให้เกษตรกรฯบริเวณดังกล่าว ลงพื้นที่ชี้แนวเขตที่ดินที่ตนเองใช้ประโยชน์ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านแพง ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป
ข่าวน่าสนใจ:
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
- "นครพนมฮือฮา! งานศพสุดแปลก ใส่ชุดแดงฟ้อนรำส่งดวงวิญญาณ ‘เจ้แข่น’ ปิดตำนานสาวสองแห่งอำเภอนาทม
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- ฝ่ายปกครอง อ.ปลาปากสนธิกำลังตร .บุกรวบหนุ่ม 20 ขาใหญ่ จำหน่ายยาบ้า โดดหลังบ้าน คว้ามีดพร้าเปิดทาง หลบหนีไปไม่รอด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับนายจรัส ไชยมนตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 พร้อมเปิดเผยว่าราษฎรในความดูแลของตน ที่ทำประโยชน์ในที่ดินเกาะดอนแพงมีประมาณ 30 ราย ได้ไปชี้แนวเขตที่ดินร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เรียบร้อยแล้ว โดยทั้งหมดเป็นเจ้าของเดิมที่จับจองมานานกว่า 30 ปี
ขณะที่นายเอก ธิดาวรรณ อายุ 54 ปี และภรรยาชื่อนางสุดตา วงศ์หมอก อายุ 46 ปี ปลูกพริกบนพื้นที่เกาะดอนแพงหมู่ 7 ต.บ้านแพง เล่าว่าประกอบอาชีพเกษตรกรมาแต่บรรพบุรุษ โดยจะปลูกพืชหมุนเวียนเช่น พริก มะเขือเทศ และฟักทอง ทราบจากเจ้าหน้าที่ฯจะมีการจัดสรรที่ดินใหม่ เพื่อให้เกษตรกรตัวจริงเข้าทำประโยชน์ รู้สึกดีใจและเป็นสิ่งที่ดี เท่าที่ทราบมีการนำที่ดินไปให้คนอื่นเช่าแปลงละ 5,000 บาท ถือว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐ ที่ให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แต่ยังมีผู้ใหญ่บ้านบางคน พูดออกเสียงตามสายให้เกษตรกรไปไถ่ถอนที่ดินกับซ้อใหญ่นายทุนคนดังก่อนค่อยไปชี้แนวเขตที่ดินฯ ขณะเดียวกันก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท่านหนึ่งทราบเรื่อง สั่งชาวบ้านไม่ให้ไปไถ่ถอนหรือจ่ายค่าเช่ากับซ้อใหญ่ จนกว่าทางราชการจัดระเบียบเสร็จแล้ว จึงจะแจ้งให้ชาวบ้านไปจ่ายค่าเช่ากับทางรัฐ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะเข้าคลัง เพื่อนำกลับมาช่วยเหลือประชาชนในรูปแบบต่างๆ ไม่ใช่เข้ากระเป๋านายทุนเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาดังกล่าวก็มีฝ่ายปกครองบางคนใส่เกียร์ว่าง ไม่ยอมสั่งการอะไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชา
ที่ดินเกาะดอนแพงเป็นมหากาพย์มานานกว่า 30 ปี ตามหลักฐานระบุเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2502 พล.ต.อ.หลวงชาติตระการโกศล ปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการในหน้าที่ รมว.มหาดไทย มอบหมายให้จังหวัดนครพนม มีอำนาจจัดหาผลประโยชน์ในที่ดินของรัฐอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินเกาะดอนแพง โดยการจัดให้เช่าเป็นจำนวนเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ เพื่อนำรายได้ปรับปรุงบำรุงที่ดินเกาะดอนแพงและท้องถิ่นส่วนจังหวัดฯ โดยเก็บค่าธรรมเนียมเข้าคลังปีละ 20 บาท/แปลง และเกษตรกรต้องไปลงทะเบียนแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ทุกปี เพื่อยืนยันตัวตนและต้องแจ้งด้วยว่าปีนี้จะปลูกพืชชนิดไหน เป็นต้น
ภายหลังมีนายทุนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการเกษตร ปล่อยสินค้าให้เกษตรกร เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ฯลฯ โดยคิดเงินสูงกว่าปกติ เมื่อถึงช่วงเก็บเกี่ยวต้องนำเงินค่าสินค้าส่งคืน เกษตรกรบางคนไม่สามารถส่งเงินดังกล่าวคืนได้ ก็จะถูกยึดที่ดินแปลงนั้น แล้วนำไปให้เกษตรกรรายอื่นเช่าในราคาไร่ละ 5-7 พันบาท/ปี โดยไม่ต้องเสียภาษีให้รัฐเป็นเวลากว่า 30 ปี กระทั่งมีผู้ร้องเรียนนายทุนรายนี้ จึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยนายทุนมีชื่อเป็นผู้ครอบครองที่ดินเกาะดอนแพงมากถึง 60 กว่าแปลง
ซึ่งต่อมาทางจังหวัดนครพนม มอบหมายให้ นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง และสั่งให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ปรากฏว่ามีข้าราชการบางคนใส่เกียร์ว่างไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่ง อาจเพราะเคยมีญาติเป็นสายสัมพันธ์กับนายทุนจึงเลือกที่จะนิ่ง ทำให้ชาวบ้านเริ่มไม่ไว้ใจการปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการรายนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: