นครพนม – เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มตัวแทนชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านนาหัวบ่อ ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม นำโดย นายปรีชา เผือกพันธ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่7 บ้านนาหัวบ่อ นายอุทัย สอนการ อายุ 50 ปี พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งได้รับความเดือดร้อน เกี่ยวกับปัญหาถนนสัญจรไปมา ระหว่าง ถนนบ้านนาหัวบ่อ เชื่อมไปยังบ้านาคู ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม รยางค์ยาว ประมาณ 7 กิโลเมตร ได้เกิดชำรุดเสียหายหนัก ประมาณ 3 กิโลเมตร สภาพเป็นหลุมเป็นบ่อ จากลาดยางกลายเป็นถนนลูกรัง เนื่องจากสภาพผิวจราจร ชำรุดพังเสียหาย ช่วงฤดูฝน พอมีฝนตกลงมา จะเป็นบ่อโคลน และเกิดปัญหาฝุ่น สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้สันจรไปมา ทนทุกข์มานานเกือบ 10 ปี เคยแจ้งไปยังหน่วยงานรับผิดชอบ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนงบประมาณ จึงออกมาเรียกร้องผ่านสื่อไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงรัฐบาล เร่งตรวจสอบหาทางแก้ไข เพราะปัจจุบันยิ่งชำรุดพังเสียหายหนัก แทบจะสัญจรไปมาไม่ได้
นายอุทัย สอนการ อายุ 50 ปี ตัวแทนชาวบ้าน เปิดเผยว่า สำหรับถนนดังกล่าวถือเป็นถนนสัญจรเส้นทางหลักที่เชื่อมมาตั้งแต่ถนนหลวง ออกมาจากตัวเมืองนครพนม และเชื่อมมายังพื้นที่ บ้านาหัวบ่อ ไปยัง บ้านนาคู ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร และยังสามารถเชื่อมไปยัง ถนนสาย นครพนม – สกลนคร เป็นเส้นทางลัด แต่ช่วงระหว่างบ้านนาหัวบ่อ ประมาณ 3 กิโลเมตร เปิดปัญหาถนนพังชำรุดเสียหายมานาน นับ 10 ปี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เคยร้องทุกข์ไปหลายหน่วยงาน รวมถึง อบจ.นครพนม ที่ดูแลรับผิดชอบ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เพราะขาดงบประมาณ สร้างความเดือดร้อนหนัก ให้กับชาวบ้านที่สัญจรไปมา ต้องทนทุกข์ กับสภาพความเสียหาย เป็นหลุม เป็นบ่อ มีทั้งดินโคลน หลังฝนตก รวมถึง มีฝุ่นคละคลุ้ง เวลารถสัญจรไปมา ยิ่งนับวันยิ่งพังเสียหาย วอนหน่วยงานรับผิดชอบเร่งหาทางแก้ไข เพราะเป็นความเดือดร้อนของชาวบ้าน ต้องสัญจรไปมา ทุกวัน
