นครพนม – เผาศพเหยื่อตำรวจปืนลั่น คู่กรณีส่งหรีดพัดลมร่วมงาน กำนันเผยคดีคืบหน้ามาก ตะลึงศพถึงหมาคู่ชีพหอนรับทันที
วันที่ 30 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.00 น. บริเวณศาลาพักญาติข้างเมรุวัดป่าสุทธาวาส บ้านค้อ หมู่ 1 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายลำเพย จำปา หรือปุ้ง อายุ 48 ปี ผู้ถูก ร.ต.ท.วิจิตร บางปา รองสารวัตร(สืบสวน) สภ.โพนสวรรค์ ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปราม หัวหน้าสายตรวจประจำตำบลบ้านค้อ ใช้อาวุธปืนสั้นประจำกายขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่หน้าอกทะลุหลัง ขณะระงับเหตุเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 และกลายเป็นเรื่องร้อนเมื่อญาติของผู้ตายนำคลิปมาเปิดเผยต่อสาธารณะว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
หลังสมาคมกู้ภัยศรีสัตตนครพนม ได้นำร่างไร้วิญญาณของนายลำเพยส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก็นำกลับมาส่งให้ญาติเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันเดียวกัน เพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลตามศาสนา จากนั้นก็เคลื่อนศพออกจากศาลาไปยังเมรุชั่วคราวในป่าช้าวัดป่าสุทธาวาส โดยมีญาติและเพื่อนบ้านมาร่วมส่งศพนายลำเพยจำนวนมาก
นอกจากนี้ พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชาได้นำพวงหรีดพัดลมติดชื่อ ร.ต.ท.วิจิตร สุขบาง แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเงินช่วยเหลือจำนวนมามอบให้แก่นางทองคำ เคนโสม พี่สาวของนายลำเพย
ด้านนายกิติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญพยานที่เห็นเหตุการณ์ เช่น นายพฤษภา จันทองหลาง หลานชายของผู้ตาย ที่เป็นคนเดินไปหยิบมีดจากมือนายลำเพยมาโยนทิ้งรั้วฝั่งตรงข้าม ก่อนที่ ร.ต.ท.วิจิตรฯจะไปหยิบกลับมาแล้วเดินไปหานายลำเพยอีกครั้ง แล้วเตะเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง พร้อมเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด หรือจะเป็นนางประยงค์ อนุญาหงษ์ เพื่อนบ้านที่เดินไปติดประชิดกับเหตุการณ์ เห็นภาพขณะนายลำเพยนั่งทรุดร่างอยู่ริมถนน หรือจะเป็น น.ส.ชไมพร จำปา คนที่บันทึกคลิปดังกล่าว เพื่อนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับผู้หมวดวิจิตรนายตำรวจปืนลั่นรายนี้
โดยนายกิติศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกอบอุ่นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจต่อคดีนี้เป็นอย่างมาก ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาทางญาติผู้ตายไม่เคยเอ่ยปากแม้แต่คำเดียว คงอาจอยู่ในระหว่างเศร้าโศกเสียใจที่สูญเสียคนในครอบครัวไป ด้านคดีก็ว่าตามพยานหลักฐาน
ส่วนนางทองคำ เคนโสม เผยว่างานศพน้องชายได้เงินจากการบริจาคของชาวบ้านคนละ 10 บาท 20 บาท ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ยังไม่มีใครติดต่อยื่นมือมาช่วยเหลือ ถึงแม้ครอบครัวจะมีฐานะยากจน ก็ไม่คิดจะเรียกร้องเงินจากคู่กรณี ส่วนที่มีคนสงสัยว่าทำไมรีบเผาศพจัง เพราะอยากให้น้องชายไปสู่สุคติ
“เมื่อคืนหลังศพน้องมาถึง ก็มีหมาที่ผู้ตายเลี้ยงไว้เห่าหอน ฉันจึงร้องถามว่ามาแล้วเหรอ เพราะหมาตัวนี้น้องชอบหยอกเล่นเสมอ จึงเชื่อว่าเขามาหยอกเล่นกับหมาที่เลี้ยงไว้ และทุกคนก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน” นางทองคำกล่าว
