นครพนม – “บอกลาความจน” อบจ.นครพนม ลุยต่อเนื่อง นำเกษตรกรศึกษาการปลูกมะพร้าวที่ประจวบฯ ดันเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ สร้างรายได้มั่นคงยั่งยืน
สืบเนื่องจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(อบจ.ฯ) จัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการและศึกษาดูงาน ในโครงการการพัฒนาและส่งเสริมการค้า การลงทุน การพาณิชย์ โดยจัดฝึกอบรมมาแล้ว 1 รุ่น ระหว่างวันที่ 1 – 4 สิงหาคม 2563 เพื่อศึกษาดูงานเกี่ยวกับมะพร้าว(มะพร้าวใหญ่หรือมะพร้าวที่นำมาทำกะทิ),มะพร้าวน้ำหอม,ขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ พันธุ์ทองมาเล พันธุ์เพชรราชา ที่ชาวอำเภอทับสะแก อำเภอสามร้อยยอด และอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นิยมปลูกเพื่อขายส่งออกต่างประเทศ เป็นต้น เป็นคณะทำงานจาก อบจ.นครพนม ประกอบด้วย สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ(ส.อบจ.ฯ) เกษตรอำเภอในแต่ละอำเภอ และหอการค้าจังหวัดนครพนม รวม 60 ชีวิต ถือว่าการศึกษาดูงานครั้งแรกนั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากกลับมาก็เริ่มพลิกพื้นดินการเกษตรเตรียมลงมะพร้าวใหญ่ และมะพร้าวน้ำหอมกัน ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม จึงจัดกิจกรรมฝึกอบรมฯเป็นโครงการที่ 2 โดยนำคณะทำงาน อบจ.ฯส่วนหนึ่ง กับเกษตรกรผู้สนใจจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำเกษตรแบบสร้างรายได้อย่างยั่งยืน จำนวน 50 คน เดินทางไปศึกษาดูงาน การปลูกพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของจังหวัดนครพนม ในวันที่ 21-24 สิงหาคม 2563
โดยวันที่ 21 สิงหาคม ช่วงเช้าผู้เข้ารับการฝึกอบรมลงทะเบียนและรับฟังการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรมฯ ณ ศูนย์ Clinic Center อบจ.นครพนม ฟังวิทยากรบรรยายและให้ความรู้เรื่องการพัฒนาและส่งเสริมการค้า การลงทุน การพาณิชย์ของจังหวัดนครพนม ตอนเย็นก็ออกเดินทางไปศึกษาดูงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ถึงจุดหมายปลายทาง มี นายชาตรี จันทร์วีระชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ที่เพิ่งย้ายจากรอง ผวจ.นครพนม ไปดำรงตำแหน่งเดิมที่จังหวัดนี้ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ท่านได้รอต้อนรับและเป็นหัวหน้าทีมพาคณะฯไปดูงานแปลงปลูกมะพร้าวแปลงใหญ่ของคุณสิทธิชัย อำเภอกุยบุรี โดยตลอดทั้งวันคณะศึกษาดูงานได้เรียนรู้วิธีการปลูกและการดูแลมะพร้าวจนถึงค่ำ
วันรุ่งขึ้นล้อหมุนเดินทางไปดูงานแปลงปลูกมะพร้าวกะทิ และโรงงานแปรรูปมะพร้าวของคุณสายชล จ้อยร่อย อำเภอทับสะแก ซึ่งมีแปลงมะพร้าวที่ใหญ่สุดในจังหวัดประจวบฯ นอกจากนี้คุณสายชลได้ไต่เต้าจากครอบครัวที่ยากจน ดิ้นรนต่อสู้ทำงานรับจ้างทุกอย่าง ก่อนจะหันมารับซื้อมะพร้าวจากชาวสวนส่งโรงงาน และผันตัวเองมาเป็นเจ้าของสวนและตั้งโรงงานแปรรูปที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ
ดร.มานพ เหมพลชม รองประธานหอการค้าจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าการศึกษาดูงานครั้งนี้ เกิดประโยชน์อย่างมากต่ออนาคตของคนนครพนม โดยเฉพาะผู้มีอาชีพเกษตรกรในการสร้างรายได้เสริม ด้วยการปลูกมะพร้าวที่ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม เป็นผู้นำคณะและเกษตรกรลงลุยพื้นที่ต้นแบบด้วยตนเอง ซึ่งศึกษาทุกขั้นตอนอย่างถ่องแท้ ทั้งการปลูกมะพร้าวกะทิ และมะพร้าวน้ำหอม จึงเหมาะสำหรับเป็นพืชทางเลือกแก่พ่อแม่พี่น้องชาวจังหวัดนครพนม
ซึ่ง ดร.มานพ เหมพลชม กล่าวต่อว่ามะพร้าวนั้นวิธีการปลูกไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นาน เช่น มะพร้าวน้ำหอมใช้เวลา 2 ปีครึ่ง มะพร้าวกะทิปลูก 3 ปี 8 เดือน ก็เก็บผลผลิตได้แล้ว เหมาะแก่การส่งเสริมอาชีพปลูกมะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ทางเลือกและทางรอดเกษตรกรนครพนม สร้างความเข้มแข็งของสังคมด้วยการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
สำหรับมะพร้าวใหญ่หรือมะพร้าวที่ใช้แปรรูปเป็นกะทินั้น ได้ข้อมูลจากคุณสายชล จ้อยร่อย ว่า ทุกวันนี้มะพร้าวในประเทศไทยขาดตลาดอย่างหนัก จึงต้องหันไปสั่งมะพร้าวนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนามมาส่งป้อนตลาด ครั้งมาดูชัยภูมิพื้นที่เตรียมแปลงปลูกมะพร้าวที่จังหวัดนครพนมแล้ว คุณสายชลยืนยันว่าสามารถปลูกมะพร้าวได้เป็นอย่างดี
