นครพนม – อดีต นอภ.โพนสวรรค์ แจ้งความอ้างของหาย ปลัดฯสวนกลับเข้าไปเก็บปืนหลวงเอ็ม 16 คืนคลัง ทุเรศ !! คนบ้านเดียวกันโดดอุ้ม ปีนี้อาจอดยลโฉมแชมป์เรือไฟตลอดกาล
คืบหน้ากรณีมีกลุ่มนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน และสมาชิก อบต.(ส.อบต.) จาก 7 ตำบล 92 หมู่ของอำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม ประมาณ 200 คน นำโดยนายกิติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ/ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอโพนสวรรค์ ขับไล่นายนพดล ศิริ นายอำเภอโพนสวรรค์ ซึ่งต่อมา ผวจ.นครพนม ได้มีคำสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 2208/2563 เรื่องให้ข้าราชการช่วยราชการ โดยมีคำสั่งให้ นายนพดล ศิริ รักษาการในตำแหน่ง นายอำเภอ (ผู้อำนวยการต้น) นายอำเภอโพนสวรรค์ จ.นครพนม ไปช่วยราชการ กลุ่มงานปกครอง ที่ทำการปกครองจังหวัดนครพนม ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2563 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
และในวันเดียวก็มีคำสั่งจังหวัด ที่ 2209/2563 เรื่องแต่งตั้งผู้รักษาการแทนนายอำเภอโพนสวรรค์ ให้นายนพดล พลซื่อ เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานความมั่นคง ที่ทำการปกครองจังหวัดนครพนม ไปรักษาราชการแทนนายอำเภอโพนสวรรค์ โดยท้ายคำสั่งระบุว่า คำสั่งใดที่ขัดแย้งกับคำสั่งนี้ให้ยกเลิก และใช้คำสั่งนี้แทน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- สยบข่าวลือ สจ.ธรรมชาติ หนีซุกเขมร หลังถูกทนายดังแฉเอี่ยวรีดเว็บพนัน
- เขาค้อผวา "ทริปน้ำไม่อาบ" นอภ.สั่งตั้งจุดตรวจ เกรงหลังเสร็จกิจกรรมภูทับเบิก แก๊งแว้นเตลิดเขาค้อ
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
ล่าสุด วันที่ 26 สิงหาคม 2563 เวลา 16.00 น. นายเสถียร ทุลลี ปลัดอาวุโสอำเภอโพนสวรรค์ ได้พานายวัชรินทร์ นามวงศ์ ปลัดป้องกันฝ่ายความมั่นคงอำเภอโพนสวรรค์ เดินทางไปพบกับ ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ อุประจันทร์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ เนื่องจากนายนพดล ศิริ อดีตนายอำเภอฯ ได้ไปแจ้งความแก่พนักงานสอบสวนว่ามีสิ่งของหายในห้องทำงานของนายอำเภอโพนสวรรค์ แล้วก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปตรวจสอบเบื้องต้น ณ ที่ว่าการอำเภอโพนสวรรค์ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์นายเสถียร ทุลลี ปลัดอาวุโสจึงพานายวัชรินทร์มาพบเจ้าหน้าที่ฯดังกล่าว
ร.ต.อ.ทนงศักดิ์ อุประจันทร์ เปิดเผยว่าช่วงบ่ายนายนพดล ศิริ ได้มาแจ้งความอ้างว่าได้เดินทางกลับมายังห้องทำงานตรวจสอบสิ่งของพบว่า มีอาวุธปืนเอ็ม 16 อาวุธปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุน พระเครื่อง และเอกสารหายไป แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร จึงเข้าไปตรวจสอบห้องทำงานของนายอำเภอโพนสวรรค์ และห้ามผู้ใดเข้าไปภายในโดยเด็ดขาด เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหารายละเอียด
ด้านนายวัชรินทร์ นามวงศ์ ปลัดฯป้องกันฯ กล่าวว่าตนต้องการมาแสดงความบริสุทธิ์เพราะหลังจากที่จังหวัดนครพนมมีคำสั่งย้ายนายนพดล ศิริ พ้นจากตำแหน่งนายอำเภอแล้วตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนจึงเข้าไปในห้องทำงานของนายอำเภอ เพื่อเข้าไปเอาอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 12 กระบอก กลับไปเก็บไว้ที่คลังอาวุธเช่นเดิม เพราะเมื่อครั้งที่นายนพดล ศิริ มาดำรงตำแหน่งใหม่ๆ ได้สั่งด้วยวาจาให้ตนนำอาวุธปืนดังกล่าวมาไว้ในห้องทำงาน
การเข้าไปในห้องทำงานตนได้เชิญนายเสถียร ทุลลี ปลัดอาวุโล และเพื่อนปลัดอีกคนพร้อม อส. ประมาณ 7-8 นาย พบอาวุธปืนดังกล่าววางพิงไว้ที่หน้าห้องน้ำ จึงนำมาตรวจนับพร้อมบันทึกภาพวีดีโอและภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำไปเก็บไว้ที่คลังอาวุธดังเดิม และให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งนายวัชรินทร์กล่าวว่าห้องทำงานของนายอำเภอไม่ได้ล็อกกุญแจ ถ้าอาวุธปืนเหล่านี้ซึ่งเป็นของหลวงหาย จะมีใครยืดอกออกมารับผิดบ้าง นอกจากนี้ยังพบหน้ากากอนามัยกว่า 10 กล่อง ที่ทางจังหวัดนครพนม รับมอบมาจากกระทรวงมหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัดนำไปจัดสรรให้ผู้สัมผัสใกล้ชิด (กำนัน/ผญบ.) ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดประชาชน (ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ อสม. อพปร. กู้ภัย) หรือ ผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง (พนักงานทำความสะอาด ด่านฯ) กลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ ฯลฯ) ซึ่งหลัง ผวจ.ฯรับมอบก็ส่งต่อไปยังอำเภอต่างๆนำไปแจก แต่ที่อำเภอโพนสวรรค์หลังรับมาแล้วกลับมาเก็บไว้ในห้องทำงาน โดยไม่มีการแจกตามวัตถุประสงค์ของกระทรวงมหาดไทย
ด้านนายเสถียร ทุลลี ปลัดอาวุโส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนต้องพานายวัชรินทร์ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ ว่า ไม่มีทรัพย์สินมีค่าอะไรอยู่ในห้องทำงานของนายอำเภอแล้ว เพราะนายนพดล ศิริ ได้ขนออกไปก่อนหน้านี้หมดแล้ว ในเก๊ะโต๊ะทำงานก็มีแต่ความว่างเปล่า ตนไม่รู้เจตนาของอดีตนายอำเภอคนนี้ว่าต้องการอะไร จึงต้องออกมาปกป้องลูกน้องที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา
ผู้สื่อข่าวได้ทราบจากแหล่งข่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรณีผู้นำชุมชน ท้องถิ่น กล่าวหานายนพดล ศิริ ไปนั้น อาจจะมีเหตุสะดุดกลางทาง เพราะมีคนบ้านเดียวกันโดดเข้ามาเอี่ยว โดยกลุ่มผู้นำชุมชน ท้องถิ่น เห็นตั้งแต่ไปร้องเรียนครั้งแรก ก็พยายามโน้มน้าวให้ไกล่เกลี่ยอย่างเดียว โดยไม่คิดจะเดินหน้าสอบสวนหาความจริง จนกลายเป็นข่าวโด่งดังจึงแสดงความขึงขัง ขณะเดียวกันได้เริ่มมีการโยกย้ายข้าราชการที่รู้ข้อมูลความจริงให้ออกนอกพื้นที่ ซึ่งอาจจะมีเพิ่มตามมาอีก ส่วนงานประเพณีไหลเรือไฟปีนี้ กลุ่มผู้นำชุมชน ท้องถิ่น เริ่มถอดใจกันหมด เนื่องจากเห็นการทำงานของคนบ้านเดียวกันอุ้มออกหน้าออกตา คนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ก็ถูกเด้งไปไกล เพื่อหวังล้างผิดให้คนบ้านเดียวกัน ดังนั้นอาจจะอดยลโฉมเรือไฟแชมป์ตลอดกาลของอำเภอโพนสวรรค์ เพราะข้าราชการบางคน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: