นครพนม – เปิดเอกสารที่ดินพิพาท”หลานฟ้องลุง” พบยอมรับรังวัดในเนื้อที่แล้ว งงหาเหตุฟ้องเพื่ออะไร เพื่อนบ้านพร้อมเป็นพยานให้ในชั้นศาล
วันที่ 8 กันยายน 2563 นายเริง ผุยเหง้า อายุ 77 ปี บ้านเลขที่ 36 หมู่ 4 บ้านเหล่าสวนกล้วย ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ผู้ตกเป็นจำเลย กรณีถูกหลานสาวคือนางสาวละเอียด ผุยเหง้า อายุ 43 ปี ลูกสาวของนายถวิล ผุยเหง้า มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายเริง อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 4 บ้านเหล่าสวนกล้วย ยื่นฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายในอัตราเดือนละ 5,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป โดยศาลฯจะพิจารณาคดีนัดแรกวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ภายหลังนายเริงหยิบยืมเงินญาติมาได้จำนวน 3,000 บาท นำมาเป็นค่าจ้างทนายในเบื้องต้น ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 8 กันยายน 2563 นายเริงพร้อมกับเพื่อนบ้านตลอดจนญาติพี่น้อง เดินทางไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม สาขาท่าอุเทน โดยนำใบจอง(น.ส.2) ขอตรวจสอบที่ตั้งของที่ดินของตน ซึ่ง พ.จ.ท.เฉลิมพล ว่องชิน หัวหน้าสำนักงานที่ดินฯ สาขาท่าอุเทน ได้อำนวยความสะดวกพาไปพบกับนายชนกนาถ ภูมิภาค นายช่างรังวัดชำนาญงาน บนชั้น 2 ของ สำนักงานฯ โดยค้นภาพถ่ายทางอากาศมาเปิดกาง พบว่าปี พ.ศ.2516 บริเวณที่ดินในละแวกนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นป่ารก และมีร่องรอยทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปมาในอดีตอยู่
กระทั่งปี พ.ศ.2536 บริเวณที่ดินของนายถวิล ผุยเหง้า พ่อของ น.ส.ละเอียดได้บุกเบิกจนเหี้ยนเตียนกลายเป็นที่โล่ง โดยยังมีทางสาธารณะเป็นเส้นแบ่งเขตเหมือนเดิม โดยในภายถ่ายทางอากาศในปีดังกล่าว เจ้าพนักงานรังวัดที่ดิน ยังระบุชื่อนายเริง เป็นผู้ครอบครองไว้อย่างชัดเจน
ข่าวน่าสนใจ:
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- หลวงพี่ขับเก๋งชนราวสะพาน เผยเดินทางดูแลโยมแม่ ชาวบ้านวอนหยุดดราม่า-ตรวจสอบความจริง
ภายหลังนายถวิลบิดาของ น.ส.ละเอียดเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.2559 และเป็นผู้จัดการมรดก โฉนดเลขที่ 11150 เนื้อที่จำนวน 19 ไร่ 40 ตารางวา ที่ออกเมื่อปี พ.ศ.2541 จากนั้นวันที่ 14 กันยายน 2559 ก็ดำเนินการสอบเขตรังวัดที่ดินแปลงดังกล่าว พบว่าหลังสอบเขตอย่างละเอียดแล้ว ที่ดินในใบโฉนดมีเพียง 13 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา เท่านั้น น.ส.ละเอียดจึงกล่าวหานายเริงผู้มีศักดิ์เป็นลุงบุกรุกที่ดิน จำนวน 4 ไร่ 2 งาน 2 ตารางวา จึงมีการเจรจาความกัน โดย น.ส.ละเอียดจะขายที่ดินจำนวนดังกล่าวในราคา ไร่ละ 50,000 บาท รวมเป็นเงิน 220,000 บาท แต่การเจรจาล้มเหลว ดังนั้น น.ส.ละเอียดจึงยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครพนม ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย ทำให้นายเริงต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ โดยมีเพื่อนบ้านพร้อมที่จะเป็นพยานในชั้นศาล
ด้าน นายมานิต หมีใหญ่ นายช่างผู้ทำหน้าที่รังวัดที่ดินแปลงพิพาทนี้ กล่าวว่าโฉนดที่ดินของนางละเอียด เป็นการออกตามมาตรา 58 ตรี คือเป็นการย้ายแปลงมาจากเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก เลขที่ 1604 มาเป็นโฉนดโดยไม่มีการรังวัดใหม่ โดยถือเอาเนื้อที่ตามที่ระบุใน น.ส. 3ก ในการออกโฉนด แต่เมื่อสอบเขตรังวัดใหม่ แล้วมีเนื้อที่ไม่ถึงตามที่ระบุในใบโฉนด ก็ต้องเอาตามความเป็นจริงเท่าที่วัดได้ ซึ่งวันที่ 4 สิงหาคม 2563 น.ส.ละเอียดก็มาเซ็นชื่อยอมรับรูปแผนที่ในจำนวน 13 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา ตามความประสงค์ทุกประการไปแล้ว ส่วนจะมีการฟ้องร้องกันในชั้นศาลตนไม่ขอออกความเห็น
นอกจากนี้ นางไส โคตรคำ อายุ 77 ปี บ้านเลขที่ 3 หมู่ 4 บ้านเหล่าสวนกล้วย ก็เล่าว่าเคยใช้ทางสาธารณะประโยชน์สัญจรไปร่วมงานบุญที่ตำบลพะทายเป็นประจำ ซึ่งแนวเส้นทางสาธารณะเดิมไม่ได้เป็นอย่างที่นางละเอียดชี้ ซึ่งแนวใหม่จะรุกล้ำเข้าไปในสวนยางของนายเริงอย่างเห็นได้ชัดซึ่งชาวบ้านทั้งหมู่บ้านต่างทราบเรื่องดี ส่วนนางยุพารัตน์ อ่อนมณี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเทา หมู่ 4 (ส.อบต.หมู่ 4) กล่าวว่าทาง อบต.ฯ มีนโยบายปรับปรุงทางสาธารณะเส้นเดิมแล้ว เมื่อมีข้อพิพาทก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ แต่เชื่อว่านายเริงซึ่งเป็นทั้งหมอธรรมประจำหมู่บ้าน มีผู้คนนับถือมากมาย มีความซื่อสัตย์สุจริต และเคยมีพระคุณต่อครอบครัวเครือญาติของบางคน ไม่ใช่คนบุกรุกที่ดินแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: