“น้องกิ๊ฟ” เหยื่อผัวโหดจับล่ามโซ่ มีเลือดออกปากจมูก ส่ง รพ.ด่วน !! พบร่องรอยถูกทำร้ายหลายแห่ง เมียเด็กอีกคนร่วมก่อเหตุช่วยผัวฉุด
จากกรณี นายปัญญา โกมลศรี หรือเล็ก อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 126 หมู่ 1 ต.หนองลาด อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมด้วยลูกสาวอายุประมาณ 16-17 ปี ฉุดกระชากลากตัวอดีตภรรยา น.ส.สุมลทิพย์ ตุ่นกลิ่น หรือน้องกิ๊ฟ อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 13 หมู่ 3 บ้านโนนสูง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ต่อหน้าพี่สาวต่างบิดาคือ น.ส.ศิริพร สรศิลป์ หรือน้ำ อายุ 22 ปี พื้นที่บ้านห้วยไห หมู่ 5 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา พื้นที่ สภ.โพนสวรรค์ จากนั้นนายเล็กก็ส่งภาพถ่ายของน้องกิ๊ฟ ในสภาพถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กที่แขนสองข้าง ส่วนท่อนล่างเปลือยเปล่า พร้อมข่มขู่ว่าถ้าใครแจ้งความจะตามไปฆ่าล้างโคตร ทำให้ญาติๆ เกิดความหวาดกลัว ภายหลังทนแรงกดดันไม่ไหวจึงนำตัวน้องกิ๊ฟมาปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านหนองปลาดุก หมู่ 9 ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด หลังน้องกิ๊ฟหลังให้ปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพแล้ว มีเลือดไหลออกปากและจมูก และมีอาการเจ็บท้องอีกด้วย นักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพนม เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คร่ายกาย เบื้องต้นพบบริเวณศีรษะมีบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็ง โดยน้องกิ๊ฟเล่าว่าถูกนายเล็กใช้ขวดเบียร์ตี ที่ปวดท้องเพราะถูกทำร้ายด้วยการต่อยท้อง และแพทย์ยังพบรอยที่บริเวณสีข้างเหมือนถูกของแหลมทิ่มแทง น้องกิ๊ฟบอกว่านายเล็กใช้มีดปลายแหลมแทง แพทย์จึงทำการรักษาบาดแผลและให้นอนดูอาการสักระยะ หากไม่มีอาการเพิ่มขึ้นก็จะอนุญาตให้ไปอยู่ในความดูแลของนักสังคมสังเคราะห์ต่อไป
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าหลังพบตัวน้องกิ๊ฟ หลังมีข่าวออกเผยแพร่ออกไป นายเล็กได้เปิดดูข่าวตนเองในยูทูบ เกิดความหวาดกลัวจึงรีบนำตัวมาส่ง ซึ่งในตอนแรกที่ น.ส.ศิริพร สรศิลป์ หรือน้ำ ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า คนที่มาช่วยนายเล็กฉุดน้องกิ๊ฟเป็นลูกสาวของนายเล็ก แต่หลังจากน้องกิ๊ฟถูกปล่อยตัวเป็นอิสระเล่าให้ฟังว่า คนที่ช่วยฉุดกระชากลากถูนั้นคือ น.ส.ธิญาดา ปาสด หรือเมย์ อายุประมาณ 18 ปี ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกับตน และก็เป็นเมียอีกคนหนึ่งของนายเล็ก
โดยหลังฉุดตัวมาแล้วได้พาไปที่กระท่อมแห่งหนึ่ง อยู่ในพื้นที่บ้านนาพระ ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เป็นกระท่อมของอดีตครูคนหนึ่งที่เปิดร้านคาราโอเกะ และสนิทสนมกับนายเล็กเป็นอย่างดี จากนั้นก็ช่วยกันล่ามโซ่ที่แขนและลำคอ จับแก้ผ้าท่อนล่าง รุมทุบตีจนน้องกิ๊ฟสลบ ก่อนจะถ่ายรูปส่งไปข่มขู่ญาติ แล้วนำตัวน้องกิ๊ฟใส่รถสามล้อพ่วงข้างหลบหนีต่อไปที่อำเภอพรรณนานิคม จังหวัดสกลนคร ครั้นเห็นข่าวของตนเองทั้งคู่จึงรีบพาตัวมาปล่อยดังกล่าว ก่อนที่นายเล็กกับน้องเมย์จะหลบหนีไป ซึ่งญาติเล่าว่านายเล็กมีเรือหางยาวอยู่หนึ่งลำ จอดอยู่ริมแม่น้ำโขงเขตอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เชื่อว่าทั้งคู่คงหลบหนีข้ามฝั่งไปแล้ว ขณะเดียวกันศาลจังหวัดนครพนมได้อนุมัติหมายจับนายเล็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เรียกประชุมตำรวจทุกโรงพักในพื้นที่เพื่อสรุปและติดตามความคืบหน้าคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรอบเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเรื่องคดีของนายเล็ก หรือ นายปัญญา โกมลศรี อายุ 38 ปี อดีตสามีของน้องกิ๊ฟ สาววัย 18 ปี ที่ถูกนายเล็กลักพาตัวไปกักขัง ล่ามโซ่ ทุบตี ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ก่อนจะยอมปล่อยตัวฝ่ายหญิงออกมา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.ปราโมทย์ อุทากิจ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ภ.จว.นครพนม รักษาราชการแทน ผกก.สภ.โพนสวรรค์ พร้อมรองผู้กำกับสืบสวนเจ้าของคดีเข้าร่วมประชุม เพื่อชี้แจงความคืบหน้าคดีนี้ด้วย
พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยถึงคดีถือว่ามีความคืบหน้าตามลำดับ หลังชุดสืบสวนเฝ้าแกะรอยนายเล็กไปพบสัญญาณโทรศัพท์มือถืออยู่ในพื้นที่อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ห่างจากจุดที่มาส่งน้องกิ๊ฟ ประมาณ 15 กิโลเมตร คาดว่าพื้นที่นี้น่าจะเป็นแหล่งกบดานของนายเล็ก และยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ไม่ได้เป็นการเปิดโรงแรมหรือรีสอร์ท เนื่องจากภาพของนายเล็กปรากฏในสื่อฯ และมีหมายจับ แต่เชื่อว่าได้โทรศัพท์หาใครบางคน เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ตำรวจมั่นใจว่าจะจับกุมได้ในไม่ช้า ทางที่ดีฝากถึงนายเล็กให้รีบติดต่อเข้ามอบตัวต่อสู้ตามกระบวนการคดีไม่จำเป็นต้องหลบหนี
นอกจากนี้พบข้อมูลอีกว่า พฤติกรรมของนายเล็กจะมีการเช่าบ้านในพื้นที่จังหวัดนครพนมและสกลนครประมาณ 10 แห่ง แต่ไม่ยืนยันว่าเอาไว้ใช้เป็นแหล่งพักยาเสพติดหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ชุดสืบสวนกำลังปูพรมตามพื้นที่เป้าหมาย รวมถึงสั่งเฝ้าระวังบริเวณแม่น้ำโขง โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ตลอดแนวชายแดน ให้จับตามดูอย่างเข้มงวด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่อาการของน้องกิ๊ฟ ป้าของน้อง บอกว่าตอนนี้หลานรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในจังหวัดนครพนม มีเจ้าหน้าที่และนักจิตวิทยาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด มีอาการเลือดคั่งภายในขณะให้ปากคำกับตำรวจ และมีอาการหวาดระแวง ซึมเศร้า ต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: