นครพนม – รวบสองผัวเมียอดีตสาวร้านสะดวกซื้อ แก๊งค้ายาบ้าข้ามชาติ ยึดกว่า 4.5 แสนเม็ด นัดส่งใกล้โรงพัก
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลงานของตำรวจพื้นที่ สภ.หลักศิลา ร่วมกับชุดสืบสวนนครพนม และหน่วยงานความมั่นคง ติดตามหาข่าวจนกระทั่งสืบทราบว่า จะมีการลำเลียงยาบ้ามาขึ้นฝั่งแม่น้ำโขงในพื้นที่ กระทั่งสายข่าวทราบว่าผู้ต้องสงสัยขับรถเก๋งโตโยต้ามาเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งริมแม่น้ำโขง แล้วพากันไปนั่งดื่มเหล้าที่ผับเพื่อชีวิตในตัวอำเภอธาตุพนม กระทั่งรุ่งเช้าผู้ต้องหาทั้งสองได้ออกจากที่พัก มายังริมแม่น้ำโขงเพื่อรอรับยาบ้าจากชายคนหนึ่งที่แล่นเรือมาส่ง จากนั้นก็ช่วยกันขนกระสอบยัดใส่ท้ายรถ ชายที่ขับเรือรีบหนีกลับไปยังฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าจับกุมขณะที่นายต๊ะจะสตาร์ทรถ โดยมี น.ส.ปุ้ยนั่งอยู่เบาะหน้าด้านซ้าย จึงนำตัวทั้งคู่ไปสอบสวนขยายผล
นายต๊ะเปิดปากสารภาพว่ารับจ้างขนยาบ้าให้กับชายชาวลาวที่ไม่ทราบชื่อ โดยให้ตนไปเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งพักกับ น.ส.ปุ้ยที่จังหวัดยโสธร แล้วก็มีคนในขบวนการนำรถยนต์โตโยต้ามาส่งให้เพื่อใช้การการขนยาเสพติด ตนจึงจอดรถยนต์เชฟโรเล็ตทิ้งไว้ที่โรงแรม ก่อนจะมาเปิดโรงแรมพักที่อำเภอธาตุพนม เพื่อรอคำสั่งให้ออกไปรับยาบ้า กระทั่งมาถูกจับดังกล่าว หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังจังหวัดยโสธร พบรถยนต์เชฟโรเล็ตจริงจึงยึดไว้เป็นของกลาง
โดยนายต๊ะอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้ขับรถมารับยาบ้าบริเวณที่ถูกจับกุมไปส่งบริเวณหลักกิโลถนนบายพาส จังหวัดขอนแก่น จากนั้นก็เดินทางกลับจังหวัดยโสธรโดยนายทุนจะนำเงินจำนวน 25,000 บาท ใส่ห่อกระดาษไปวางไว้ที่หลักกิโลเขตเทศบาลเมืองยโสธร ก็นำเงินดังกล่าวไปเที่ยวกินจนหมดภายใน 1 สัปดาห์
ด้าน น.ส.ปุ้ยเผยว่าเพิ่งรู้จักกับนายต๊ะประมาณ 3 เดือน ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ ตอนหลังลาออกมาเป็นแม่ค้าขายของในโรงเรียน โดยมาเจอกับนายต๊ะในร้านเหล้า และคบหากันเป็นสามีภรรยา ก่อนถูกจับกุมนายต๊ะชวนนั่งรถไปเป็นเพื่อนที่จังหวัดนครพนม โดยไม่ทราบว่าจะพามาขนยาบ้า กระทั่งถูกจับกุมได้
การสืบสวนทางลับของฝ่ายความมั่นคง พบว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จะใช้วิธีนัดหมายทางโทรศัพท์ ส่งต่อเป็นช่วงๆ ส่วนรถยนต์คันดังกล่าวมีการตรวจสอบ พบว่ามีการซื้อมาจากเฟซบุ๊กที่หลุดจำนำ ซึ่งทางตำรวจจะได้เร่งขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี ถือว่าเป็นเครือข่ายรายสำคัญ ที่สามารถติดต่อนำเข้ายาบ้าล็อตใหญ่ได้ พร้อมประสานงานทุกหน่วยงานเพิ่มมาตรการเข้ม ในการติดตามหาข่าวปราบปรามจับกุม ในพื้นที่ตามแนวชายแดน สำหรับมูลค่าของกลางครั้งนี้ คิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 45 ล้านบาท
