นครพนม – กรณี นายปัญญา โกมลศรี หรือเล็ก อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 126 หมู่ 1 ต.หนองลาด อ.เมือง จ.สกลนคร บุคคลตามหมายจับที่ จ.105/2563 และ น.ส.เมย์(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี หมายจับที่ จ.5/2563 ถูกตำรวจชุดสืบสวนที่บูรณาการร่วมกัน จู่โจมจับกุมขณะทั้งสองหลบซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมกลางนา พื้นที่บ้านบะหว้า หมู่ 7 ต.ท่าเรือ อ.นาหว้า จ.นครพนม เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่าน
ต่อมาวันรุ่งเช้าพนักงานสอบสวน สภ.นาหว้า ได้นำตัวสองผัวเมียส่งฟ้องศาล โดยแยกตัวนายเล็กส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม ในคดีค้างเก่าคือ 1.เมาแล้วขับ 2.ปลอมแปลงเอกสาร และขณะถูกจับกุมค้นพบยาบ้าในกระท่อมอีก จำนวน 186 เม็ด พนักงานสอบสวนจึงเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย รวมเป็น 3 ข้อหา โดยคัดค้านการประกันตัว ส่วน น.ส.เมย์ส่งฟ้องศาลเยาวชนฯ ใน 2 ข้อหา คือ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน 186 เม็ด และมีฉี่เป็นสีม่วง
ส่วนอีก 4 ข้อหา ที่ทั้งสองจะถูกยื่นฟ้องศาลคือ 1.ฐานความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 2. ร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น และ 4.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร
โดย 4 ข้อหาใหม่นี้พนักงานสอบสวนจะฝากขังคดีเก่าของนายเล็กให้ครบ 7 ฝาก ฝากละ 12 วัน รวม 84 วันแล้ว จึงจะยื่นฟ้องต่อศาลอีกครั้ง
สำหรับการสอบสวนขยายผล พนักงานสอบสวน สภ.นาหว้า เรียกตัวเจ๊ลอลูกพี่ใหญ่ของนายเล็กผู้ต้องหามาสอบปากคำเพียงครั้งเดียว และยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด โดยในชั้นพนักงานสอบสวนเจ้าหน้าที่กล่าวว่าจะต้องทำสำนวนให้รัดกุม รวมทั้งนายเล็กได้เปิดชื่อผู้ร่วมขบวนการหมดแล้ว รวมถึงการที่เช่าบ้านทิ้งไว้ในพื้นที่จังหวัดสกลนครและนครพนมกว่า 10 หลัง ส่วนจะมีการเชื่อมโยงไปถึงใครบ้างต้องใช้เวลาสักระยะ
