นครพนม – ชาวห้วยพระ บุกร้อง หมอสงค์ฯ ช่วย เร่งรัดกรมที่ดินสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังถูกแตะถ่วงมากว่าครึ่งปี
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2563 นายเรืองชัย วงษ์อุระ กรรมการคุ้มครองสิทธิประชาชนนครพนม พร้อมด้วยนายพันธ์ ชมภูพระ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยพระหมู่ 9 และชาวบ้านอีกนับสิบคนได้เดินทางมาพบกับนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทยจังหวัดนครพนม เพื่อร้องขอให้ช่วยเร่งรัดให้กรมที่ดินมีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของบริษัทเกษตรปิยะมิตรที่ก่อนมีการสอบสวนแล้วพบว่าเป็นการออกเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบด้วยกฎหมายและคณะกรรมการเพิกถอนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เพิกถอน โฉนดที่ดิน 14 แปลง และ นส.3ก. อีก 32 แปลงไปแล้วเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 โดยขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างรอให้อธิบดีลงนามเพื่อเพิกถอนเท่านั้น
นายเรืองชัย วงษ์อุระ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กรมที่ดินได้มีคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 3879/2562 ลงวันที่ 27 ธันวาคม 2562 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามความในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยให้คณะกรรมการดำเนินการสอบสวนว่าการออกโฉนดที่ดินจำนวน 14 แปลงและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส.3ก.) อีก 32 แปลง ในพื้นที่ตำบลท่าจำปาอำเภอท่าอุเทนจังหวัดนครพนม ว่าออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมด้วยให้รายงานความเห็นให้อธิบดีกรมที่ดินพิจารณา ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนได้สอบสวนและประชุมสรุปความเห็นและมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้เพิถอนที่ดินทุกแปลงดังกล่าวเนื่องจากเป็นการออกโฉนดและ นส.3ก. อันสืบเนื่องมาจากการออกใบจองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยเป็นการออกใบจองที่ฝ่าฝืนต่อมาตรา 33 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชน พ.ศ. 2498 นอกจากนั้นการออกโฉนดบางแปลงยังออกโดยฝ่าฝืนมาตรา 59 ตรี แห่งประมวลกฎหมายที่ดินและระเบียบของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2536) ว่าด้วยเงื่อนไขการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์หมวด 2 ข้อ 8 โดยเป็นการออกทับที่แปลงอื่นซึ่งเป็นที่ดินนอกหลักฐานเป็นการออกโฉดที่มีเนื้อที่มากกว่าใบจองและ นส.3 ก.เป็นจำนวนมาก คณะกรมการจึงมีมติเป็นเอกฉันท์เห็นควรเสนออธิบดีกรมที่ดินสั่งเพิกถอน ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2563 โดยครั้งนั้นประธานคณะกรรมการได้มอบหมายให้เลขานุการสรุปรายงานผลการสอบสวนและความเห็นของคณะกรรมการฯ เพื่อเสนอให้อธิบดีพิจารณา แต่ปรากฎว่าเลขานุการกลับเพิกเฉยไม่รายงานผลการสอบสวนดังกล่าวให้อธิบดีกรมที่ดินภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดสร้างความเดือดร้อนให้กับราษฎรบ้านห้วยพระเป็นอย่างมากจึงรวมตัวกว่า 200 คนเดินทางเข้าร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดนครพนม จนสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมสาขาท่าอุเทนได้ทำรายงานสรุปผลการสอบสวนส่งให้อธิบดีกรมที่ดินแล้วตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2563 ซึ่งตามหลักกฎหมาย ตามความในมาตรา 61 นั้นระบุไว้ชัดเจนว่า ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15 วันนับแต่ได้รับรายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการการสอบสวน ซึ่งปัจจุบันหากนับเวลาที่รายงานถูกส่งออกจากจังหวัดนครพนมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2563 จนถึงปัจจุบันก็ล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้ว ซึ่งล่วงเลยเงื่อนเวลาที่ระบุไว้ตามกฎหมายแล้วแต่ยังไม่มีหนังสือสั่งการใด ๆ จากกรมที่ดินเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ตนจึงได้รวมตัวเพื่อขอให้ทางนายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงษ์ ซึ่งเป็นตัวแทนของชาวบ้านให้ช่วยติดตามเรื่องนี้อีกแรงหนึ่ง
ด้านนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงษ์ ส.ส.นครพนม บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าตนยินดีรับเรื่องนี้มาพิจารณาเนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของประชาชนและจะนำเรื่องนี้มาตั้งกระทู้ถามสดในสภาผู้แทนราษฎรต่อรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยที่เป็นผู้บังคับบัญชาของกรมที่ดินอีกทีหนึ่ง โดยตนจะให้ฝ่ายกฎหมายนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาแล้วร่างเป็นกระทู้ด่วนเพื่ออภิปรายในสภาฯต่อไปอย่างแน่นอน
