นครพนม – ฝากขังไอ้เสือหื่นกาม อนาถาไร้ญาติเหลียวแล เหยื่ออนาจารเล่านาทีถูกล่วงละเมิด จังหวัดยื่นมือช่วยครอบครัวเด็กหญิง
จากกรณี นายวิทวัฒน์ ไชยมนตรี หรือเสือ อายุ 38 ปี ชาวบ้านดอนกลางเหนือ ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จังหวัดนครพนม ล่อลวงเด็กหญิงวัย 10 ขวบชื่อน้องพิม(นามสมมุติ) นักเรียนโรงเรียนชั้นประถมแห่งหนึ่งไปกระทำอนาจารในห้องนอน แต่ไม่สามารถสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปได้ จึงใช้นิ้วแหย่ช่องคลอดพร้อมสำเร็จความใคร่ ก่อนจะพาเหยื่อมาส่งที่หน้าบ้านหลังวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร โดยเหยื่อได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แม่และญาติฟัง จึงนำไปสู่การจับกุมไอ้เสือหื่นกาม เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาสารภาพเพิ่งเสพยาบ้ามาแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
คืบหน้าล่าสุด วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.ธาตุพนม ทราบจาก ร.ต.อ.สุรศักดิ์ สิงห์คะ รอง สว.(สอบสวน) ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลจังหวัดนครพนม จำนวน 3 ข้อหา 1.พรากและพาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่ออนาจาร โดยขู่เข็ญใช้กำลังโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ 2.กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และ 3.เสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปพบกับครอบครัวของผู้เสียหาย พบทั้งพ่อ แม่ ยาย และป้าของเด็กหญิง กำลังช่วยกันหุงหาอาหารเช้ากัน โดยเด็กหญิงเปิดปากเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 29 ตุลาคม เวลาประมาณ 16.00 น. หลังกลับจากโรงเรียนก็มาขอเงินยายไปซื้อข้าวเหนียวไก่ทอด ที่ตั้งขายอยู่ข้างกำแพงวัดพระธาตุพนมฯ จังหวะนั้นพบ น.ส.น้ำค้าง อายุ 18 ปี เพื่อนต่างวัยพื้นเพเป็นคนบ้านหนองหอย ต.ธาตุพนมเหนือ เดินคุยโทรศัพท์อยู่ เหตุที่น้องพิมรู้จักกับ น.ส.น้ำค้าง ที่อยู่กันคนละหมู่บ้านเพราะพ่อของ น.ส.น้ำค้างมาได้เมียใหม่อยู่ในซอยหลังวัดใกล้กับบ้านของน้องพิมนั่นเอง
น.ส.น้ำค้างเห็นน้องพิมก็ปรี่เข้ามาหา พอดีกับมีข้อความของเพื่อนต่างวัยอีกคนชื่อน้องเอิร์น อายุประมาณ 12 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่คนละฝั่งถนนกับน้องพิม ส่งมาในมือถือของ น.ส.น้ำค้าง ว่า ให้ไปหาน้องเอิร์นที่บ้านหน่อย ขณะนั้นเองนายเสือก็ขี่รถ จยย.ผ่านมา น.ส.น้ำค้างจึงโบกรถให้พาไปส่งที่บ้านน้องเอิร์น เมื่อไปถึงน้องพิมก็อยากกลับบ้านเพราะทางครอบครัวสั่งกำชับไว้ว่าอย่าคบกับ น.ส.น้ำค้าง เนื่องจากมีประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นายเสือขันอาสาจะพาไปส่งแต่ขอแวะไปเอาของที่บ้านพักก่อน
ครั้นไปถึงบ้านนายเสือน้องพิมขอยืนรออยู่หน้าบ้าน นายเสือจึงใช้กำลังฉุดกระชากลากเข้าไปในห้องนอน น้องพิมตะโกนร้องให้คนช่วยก็ถูกนายเสือใช้มืออุดปาก ก่อนจะถลกกระโปรงนักเรียนขึ้นไปแล้วถอดกางเกงชั้นในน้องออก โดยนายเสือถอดเสื้อผ้าล่อนจ้อน แล้วพยายามจะข่มขืน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถสอดใส่ได้ จึงหันมาเป็นใช้นิ้วแหย่อวัยวะเพศแทน โดยนายเสือก็สำเร็จความใคร่ไปด้วย จากนั้นก็ขู่ห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย แล้วก็พาขึ้นซ้อนท้ายรถ จยย.มาปล่อยทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของเหยื่อ ก่อนจะรีบขับรถหลบหนีไป
ด้านนางจัน(นามสมมุติ) ผู้เป็นป้าของน้องพิมเล่าว่า เห็นหลานสาวมีอาการตัวสั่นตื่นตระหนกอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงเข้าไปเค้นถามจนทราบว่าถูกนายเสือกระทำอนาจาร พอเปิดกระโปรงดูก็เห็นมีเลือดติดอยู่ที่กางเกงใน จึงรีบพาตัวไปให้แพทย์ รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม ตรวจบริเวณช่องคลอดพบมีบาดแผลทั้งด้านในและด้านนอกของอวัยวะเพศ แต่ไม่มีการติดเชื้อ ก่อนจะพากันไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับนายเสือดังกล่าว
ด้าน ร.ต.อ.สุรศักดิ์ สิงห์คะ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังนายเสือถูกจับกุมก็ไม่มีญาติเข้าเยี่ยมส่งข้าวส่งน้ำ หรือยื่นเรื่องขอประกันตัวแต่อย่างใด เบื้องต้นสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียว อดีตเป็นคนมีฐานะดี แต่ด้วยเหตุผลใดไม่ทราบได้ ชีวิตตกต่ำมีปัญหาเรื่อยมา กระทั่งไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดก่อนจะกลับมาอยู่บ้านช่วงวิกฤตโควิด และหาทางออกด้วยการเสพยาเสพติด โดยนายเสือสารภาพว่าเพิ่งเสพยาบ้ามา 1 เม็ด พอเห็นเด็กหญิงก็เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงออกอุบายพาไปที่บ้านเพื่อจะลงมือข่มขืนดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายของวันนี้(31 ตุลาคม) ทางเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พร้อมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.ฯ) จะเข้าไปเยี่ยมครอบครัวของเด็กหญิง เพื่อนำสิ่งของอุปโภคบริโภค ที่สำคัญคือการมาให้กำลังใจ พร้อมจะช่วยเหลือตามที่เด็กต้องการ
