นครพนม – ส่งตัวผัวฆ่าแล้วเผาลูกเมียฝากขัง หลังกินยาหลับอุตุ นายอำเภอแจงเงินช่วยเหลือ ผู้ว่าฯไวกว่าใคร มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ช่วยเหลือเบื้องต้นมีตุนแล้วเกือบแสน
คืบหน้าคดีสืบ นายพันธ์ โทปะ หรือสี อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 หมู่ 2 บ้านโพนสวรรค์ ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม มีอาการจิตหลอนใช้ของแข็งทุบเมียขณะนอนดูโทรทัศน์ คือ นางอานนท์ สีดาวงศ์ อายุ 48 ปี และลูกชาย ด.ช.เอกราช โทปะ หรือน้องเปา อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนบ้านชะโนด เสียชีวิตคาที่ ก่อนจะขนเสื้อผ้าในตู้มาทับร่าง แล้วราดด้วยน้ำมันจุดไฟเผาย่างสด โดยหลังเพลิงสงบพบศพทั้งสองแม่ลูกถูกไฟเผาดำเป็นตอตะโกจมอยู่ในซากกองเพลิง จากนั้นก็คว้าจอบไล่ทุบตีญาติจนได้รับบาดเจ็บ กระทั่งเพื่อนบ้านรุมจับตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และในวันต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
ล่าสุด วันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ร.ต.อ.จำรัส ศรีหาตา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี จะนำตัวนายพันธ์ผู้ต้องหาส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนม รวม 6 ข้อกล่าวหา ได้แก่ 1.ฆ่าคนตายโดยเจตนา 2.กระทำให้เกิดเพลิงไหม้ที่อยู่อาศัย โรงเรือนที่อยู่อาศัย 3.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส 4.บุกรุกเคหะสถานโดยมีอาวุธ 5.ทำให้เสียทรัพย์ และ 6.ทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือสาเหตุการตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากนายพันธ์ได้รับประทานยาที่แพทย์ด้านจิตเวชโรงพยาบาลนครพนมจ่ายให้เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้นายพันธ์ไม่ไปรับยาตามแพทย์นัดเป็นเวลาถึง 3 เดือน และเพิ่งทานยาได้แค่เม็ดเดียวก็ก่อเหตุฆ่าลูกเมียนั้น แพทย์เปิดเผยว่าเนื่องจากผู้ป่วยขาดยานาน 3 เดือน เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ ฉะนั้นเมื่อทานยาไปแล้วจะให้ระบบประสาทได้พักผ่อนจึงต้องใช้เวลาสัก 2-3 วัน ซึ่งหลังนายพันธ์ได้ทานยาติดต่อกันจึงนอนหลับอยู่ในห้องควบคุม โดยไม่มีอาการคลุ้มคลั่งแต่อย่างใด
และจากการที่ พระอดิเทพ ฉันทะกโร (สีดาวงศ์) ลูกชายคนโต เกิดความเครียดและกังวลต่อการจัดการเรื่องศพของแม่และน้องนั้น โดยอ้างว่ามีเงินเหลือเพียง 1,000 บาท เนื่องจากเอกสารต่างๆและธุรกรรมการเงินถูกเพลิงเผาไหม้หมดแล้ว ก็ได้รับการชี้แจงจาก นายสมลักษ์ ยกน้อยวงศ์ นายอำเภอเมืองนครพนม ว่า หลังเกิดเหตุนายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม (พมฯ) ได้ลงพื้นที่ทันที เบื้องต้นทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ช่วยเหลือ 10,000 บาท เหล่ากาชาดฯ พม.ฯ มอบให้อีก 7,000 บาท ยังไม่นับรวมเงินส่วนตัวที่ควักมอบให้ และทางองค์การบริหารส่วนตำบลคำเตย จะช่วยเหลืออีก 30,000 บาท รอเพียงผ่านขั้นตอนของระบบราชการให้เสร็จก่อน โดยเงินทั้งหมดได้มอบให้แก่นายเอกชัย โทปะ หรือจ๋อย อายุ 19 ปี ลูกชายคนที่สองของผู้ตายเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะมีการเปิดบัญชีเพื่อขอรับบริจาคก็เป็นการดีที่ชาวนครพนมจะร่วมด้วยช่วยกัน
สำหรับศพสองแม่ลูกขณะนี้ยงอยู่ในห้องเก็บศพโรงพยาบาลนครพนม รอแพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพในที่เกิดเหตุส่งรายละเอียดให้แก่พนักงานสอบสวน เพื่อนำไปแสดงต่อสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จังหวัดขอนแก่น ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริงว่า เสียชีวิตจากการถูกทำร้าย หรือสำลักควันตาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: