นครพนม – นายวินัย คงยืน หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ชาวนาหลายรายอาจประสบปัญหาการเก็บเกี่ยวข้าวไม่ทันตามกำหนด จึงทำให้ข้าวมีผลผลิตน้อยและด้อยคุณภาพ สาเหตุมาจากเกษตรกรบางรายที่ปลูกข้าวไว้จำนวนมาก ใช้วิธีเกี่ยวข้าวแบบดั้งเดิมจึงเก็บเกี่ยวข้าวไม่ทันกำหนดเวลา ทำให้ข้าวแห้งเมล็ดลีบ เวลาเก็บเกี่ยวข้าวก็จะร่วงหล่นลงพื้นได้ง่าย ส่งผลให้ผลผลิตเสียหาย คุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร ข้าวที่เกษตรกรเพาะปลูกจะเริ่มสุกจากทางภาคเหนือลงไปภาคใต้ ตามแรงโน้มถ่วงของโลก
สำหรับฤดูข้าวนาปีหรือข้าวไวต่อช่วงแสง จะนิยมปลูกในช่วงของวันแม่ และจะเก็บเกี่ยวในช่วงวันพ่อ ซึ่งขณะนี้ใกล้ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว โดยในประเทศไทยจะมีการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนมกราคม ข้าวจะสามารถเก็บเกี่ยวได้โดยเริ่มตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เป็นลำดับ
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม ทหารพรานสนธิกำลังยึดยาบ้าเกือบ 2 แสนเม็ด! ตรวจพบฝิ่นดิบกว่า 3 กิโลกรัม ริมแม่น้ำโขง
- ชาวบ้านผวา พบเสือ 3 แม่ลูก ป้วนเปี้ยนในป่า 100 ไร่ใกล้ฟาร์มเลี้ยงวัว ไม่กล้าเกี่ยวข้าว-กรีดยาง วอนบุกพิสูจน์
- เอเย่นต์ยาบ้าร้องไห้โฮ หลังชุด ฉก.ปกครองบุกจับ ตรวจพบของกลางกลับโทษภรรยา ไม่ยอมซุกซ่อนยาเสพติดให้ดี จ.สระแก้ว
- นครพนม : กองทัพบก ร่วมกับ Kubota มอบไออุ่นในพื้นที่ภาคอีสาน มอบเสื้อกันหนาวให้ชาวนครพนม ตามโครงการ "คูโบต้า พลังใจ สู้ภัยหนาว" ปี 2567
สำหรับในบางพื้นที่ในช่วงนี้ เกษตรกรบางรายเริ่มที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวแล้ว โดยข้าวที่เริ่มเพาะปลูกมาตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมเริ่มที่จะสุกรอการเก็บเกี่ยว ที่ผ่านมาการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวของเกษตรกร ยังมีปัญหาในเรื่องของคุณภาพและปริมาณผลผลิตที่ได้รับไม่สูงมากนัก เนื่องจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งเกษตรกรจะต้องให้ความสนใจและรู้ถึงวิธีในการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม
โดยให้เกษตรกรเริ่มสังเกตตั้งแต่เมื่อข้าวเริ่มออกดอก ซึ่งถ้าข้าวทั้งแปลงออกดอกประมาณ 80% ถือเป็นวันออกดอก นับจากวันออกดอกไปอีก 28 – 30 วัน ก็จะเป็นกำหนดวันเก็บเกี่ยวข้าวที่เหมาะสม โดยให้มีการระบายน้ำออกจากแปลงก่อนถึงกำหนดเก็บเกี่ยวประมาณ 7 – 10 วัน เพื่อให้ข้าวสุกแก่สม่ำเสมอ และสะดวกในการเก็บเกี่ยว เมื่อถึงระยะสุกแก่เหมาะสมนับจากวันออกดอกให้เริ่มทำการเก็บเกี่ยว โดยเมล็ดจะต้องมีความชื้นไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งหากมีการเก็บเกี่ยวข้าวก่อนหรือหลังจากระยะนี้ไป จะทำให้ข้าวสูญเสียน้ำหนักและคุณภาพมาก
ซึ่งการนวดข้าวสามารถทำได้หลายวิธี เช่น ใช้แรงคนนวด เครื่องนวด เครื่องเกี่ยวนวด และในการนวดข้าวในทุกวิธี จะต้องระมัดระวังการสูญเสียปริมาณข้าวจากการร่วงหล่น กระเด็นติดไปกับฟางข้าว เมล็ดเกิดการแตกร้าว แตกหัก เกษตรกรจะต้องเลือกวิธีที่ใช้ในการนวดให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อลดความสูญเสียของผลผลิตข้าว ทั้งนี้ หลังจากเก็บเกี่ยวและนวดข้าว จะต้องรีบตากหรือลดความชื้นเมล็ดให้แห้งโดยเร็วที่สุด โดยใช้แสงอาทิตย์หรือเครื่องอบข้าว และแยกสิ่งเจือปนออกข้าว เพื่อให้ผลผลิตที่ได้เกิดการสูญเสียน้อยที่สุด คุ้มค่ากับการลงทุน และสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: