นครพนม – อดิศรบุกถิ่นสหายแสงเพื่อนซี้ ช่วยเพื่อไทยหาเสียง อบจ.นครพนม สนับสนุน ดร.สมชอบป้องกันแชมป์ ย้ำถึงเวลาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามกีฬาโรงเรียนนาหว้าพิทยาคม อ.นาหว้า จ.นครพนม ดร.อดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และ นายยุทธจักร เรืองวรบูรณ์ อดีต ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำฝ่ายการเมือง ลงพื้นที่เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน โดยมีโปรแกรมเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ อ.นาหว้า ,ศรีสงคราม, นาทม และ อ.บ้านแพง เพื่อหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนม หลังมติพรรคเพื่อไทยเห็นชอบส่ง ดร.สมชอบ นิติพจน์ อดีตแชมป์ 2 สมัย ลงป้องกันตำแหน่งฯอีกครั้ง
พื้นที่ 4 อำเภอดังกล่าวเรียกว่าเป็นโซนเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญถิ่นของ “ครูแก้ว”นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย/รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ผู้มีฐานเสียงเหนียวแน่นมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
โดยในวันนี้แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ปราศรัยหาเสียงวันเดียวถึง 4 อำเภอ เพื่อ แนะนำผู้สมัครทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ในการส่ง ดร.สมชอบ นิติพจน์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หมายเลข 3 แชมป์เก่า นำทีมผู้สมัครสมาชิก อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต ในพื้นที่ 12 อำเภอ
ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในการเปิดเวทีปราศรัยเชิงรุก โดยเน้นลงพื้นที่ทุกอำเภอ เพื่อชูนโยบายการพัฒนา พร้อมประกาศเชิญชวนให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และเลือกฝ่ายประชาธิปไตยคือพรรคเพื่อไทย
สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.นครพนมครั้งนี้ ถือเป็นการชิงคะแนนความนิยม และวัดบารมีของ 2 พรรคใหญ่และอีกหนึ่งกลุ่ม ประกอบด้วย พรรคก้าวไกลที่ให้การสนับสนุนทีมคณะก้าวหน้า มหานคร นครพนม ส่งนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ฯ หมายเลข 1 ส่วนกลุ่มนครพนมร่วมใจ ส่งนางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ ผู้สมัครนายก อบจ.ฯ หมายเลข 2 นักการเมืองหน้าใหม่ลูกสาวของนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ในนามกลุ่มนครพนมร่วมใจเป็นการร่วมกลุ่มกันกับอดีตสส.ในพื้นที่ถึงสองคน คือนายแพทย์อลงกต มณีกาศอดีต สส.พรรคเพื่อแผ่นดิน และนายชูกันย์ กุลวงษาอดีต สส.พรรคเพื่อไทย ร่วมทีม และอีกพรรคคือพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนแชมป์เก่า นำโดย ดร.สมชอบ นิติพจน์ ผู้สมัคร นายก อบจ.ฯหมายเลข 3 ในนามทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม ถือเป็นศึกสามเส้า ทุกเบอร์ต่างพยายามลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างหนัก เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากชาวบ้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยได้พยายามหาเสียงเชิงรุก ดึงแกนนำคนสำคัญลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่อง ชิงความได้เปรียบเรื่องกระแสพรรค รวมถึงการชูนโยบายการพัฒนา
ดร.อดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้ตนในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทย ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง สามารถมาพบปะปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ฯ รวมถึงผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม ได้ตามกฎหมาย โดยพรรคเพื่อไทยได้มีมติเห็นชอบส่ง ดร.สมชอบ นิติพจน์ ในนามทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม นำทีมผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม ลงชิงตำแหน่งครบทั้ง 30 เขต ตนในฐานะฝ่ายประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาตลอด ขอเชิญชวนประชาชนชาว จ.นครพนม ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น อบจ. หลังถูกเผด็จการครอบงำมานานเกือบ 10 ปี ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะทวงคืนอำนาจของประชาชน ถึงแม้เราไม่สามารถเป็นรัฐบาลกลางได้ ทั้งที่ชนะการเลือกตั้ง เพราะถูกสืบทอดอำนาจ แต่มาถึงวันนี้ทุกคนมาร่วมกันเลือกฝ่ายประชาธิปไตย สนับสนุนผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ซึ่งส่งผู้สมัคร 25 จังหวัดทั่วประเทศ มั่นใจว่าเราจะต้องชนะการเลือกตั้ง และเราจะจัดตั้งรัฐบาลท้องถิ่นแทน เป็นการทวงอำนาจของประชาชนคืนกลับมา เพื่อจะได้ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ ต้องยอมรับว่าประเทศไทยทุกวันนี้ เศรษฐกิจตกต่ำ เพราะการสืบอำนาจ ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะยึดอำนาจคืน ในการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งท้องถิ่น และเลือกฝ่ายประชาธิปไตย
จังหวัดนครพนมมีผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม รวมทั้งสิ้น 5 คน แต่ที่ขับเคี่ยวกันจริงๆมีแค่ 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มก้าวหน้า กลุ่มนครพนมร่วมใจ และกลุ่มเพื่อไทย เพื่อนครพนม ซึ่งผู้สมัครทั้ง 3 คน ล้วนเคยอยู่สังกัดเดียวกันมาก่อนทั้งนั้น ตั้งแต่สมัยพรรคความหวังใหม่ มาจนถึงพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ก่อนจะแยกย้ายกันไปอยู่พรรคอื่นตามวิถีทางการเมือง
โดยส่วนตัวผู้สมัครทั้ง 3 กลุ่ม หาเสียงกันแบบชิงคะแนนนิยมกันด้านนโยบาย จะมีแต่เพียงกองเชียร์ของบางกลุ่มเท่านั้น มักอ้างตนเป็นคนรุ่นใหม่ แต่กลับโจมตีฝ่ายตรงข้าม ที่ไม่ต่างจากการเมืองเก่าๆ แม้ในกลุ่มไลน์ถ้ามีใครนำเรื่องราวของกลุ่มตรงข้ามไปลง ก็จะถูกเตะออกจากกลุ่มทันที หรือลงโพสต์ด่าฝ่ายตรงข้ามในเฟซบุ๊กถ้ามีคนมาเห็นต่าง ผู้ที่อ้างเป็นคนรุ่นใหม่จะด่ากลับ กล่าวหาว่าเป็นคนโง่ดักดาน ลามปามถึงบรรพบุรุษก็เคยมี จึงมีคำพูดของผู้ติดตามว่าพวกนี้เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสมองรุ่นเก่า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: