นครพนม – แม้จะเหลือเวลาหาเสียงราว 3 สัปดาห์ บรรยากาศสนามเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (นายก อบจ.ฯ) ก็ยังมองไม่ออกว่าผู้สมัครฯเบอร์ไหนจะเป็นตัวเด่นที่สุด ระหว่างหมายเลข 1 นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ ที่กลุ่มก้าวหน้าส่งเข้าประกวด หรือ หมายเลข 2 “น้องขวัญ” นางสาว ศุภพานี โพธิ์สุ นักการเมืองหน้าใหม่ลูกสาวของนายศุภชัย โพธิ์ ที่ฉีกตัวจากพรรคใหญ่ออกมาตั้งทีมนครพนมร่วมใจ และหมายเลข 3 ดร.สมชอบ นิติพจน์ ดีกรีแชมป์เก่า 2 สมัย โดยพรรคเพื่อไทยมีมติส่งลงป้องกันแชมป์ ภาษามวยเรียกว่าคู่คี่สูสีกันมาก แม้แต่เซียนการเมืองยังไม่กล้าชี้ว่าเบอร์ไหนเป็นทีเด็ด
ถือว่าการหาเสียงของผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม ไม่มีการกล่าวโจมตีใส่ร้ายกัน ต่างเข็นนโยบายออกมาให้ประชาชนพิจารณา จะมีแต่พวกกองแต๊ก กองหนุน กองเชียร์เท่านั้น ที่ออกตัวแรงเหลือเกิน ไล่เตะตัดขาฝ่ายตรงข้าม ใครเห็นต่างก็จะถูกตราหน้าว่าหลงยุค ก็ว่ากันไปตามประสาแผ่นเสียงตกร่อง
สำหรับประวัติผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม ทั้ง 3 เบอร์(1-2-3) บนเส้นทางการเมือง เริ่มจากพี่ใหญ่ ดร.สมชอบ นิติพจน์ แจ้งเกิดในเวทีการเมืองท้องถิ่นด้วยการชักนำของ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม โดยเมื่อปี พ.ศ.2538 ได้รับเลือกตั้งเป็น สจ.เขตอำเภอปลาปาก สมัยแรก ภายหลังปี 2551 ก็ลงสมัครนายก อบจ.ฯ และได้รับความไว้วางใจเป็นนายกฯถึง 2 สมัยติดต่อกัน โดยได้แรงสนับสนุนจากพรรคการเมืองใหญ่อย่าง ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย
ด้าน นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ เส้นทางการเมืองก็ไม่ต่างจาก ดร.สมชอบฯ เพราะแจ้งเกิดเป็น สจ.เขตฯ ด้วยการชักนำของพี่ชาย นายอรรถสิทธิ์ ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.นครพนม 7 สมัย แต่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ต่อมาลงสมัคร ส.ส.นครพนม ในนามพรรคไทยรักไทย(รุ่นแรก) แข่งกับเจ้าของพื้นที่คือ ดร.ไพจิต ศรีวรขาน พรรคความหวังใหม่(ในขณะนั้น) ปรากฏว่าแพ้ไปไม่กี่คะแนน ภายหลังได้มีการควบรวมพรรคความหวังใหม่เป็นเนื้อเดียวกับพรรคไทยรักไทย ก็มีโอกาสทำงานด้านการเมืองร่วมกับนายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ นายศุภชัย โพธิ์สุ นายเนวิน ชิดชอบ ฯลฯ ส่วนสนามการเมืองท้องถิ่นก็ทำงานร่วมกับ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นางมนพร เจริญศรี (ปัจจุบันเป็น ส.ส.นครพนม เขต 2) เป็นต้น
กระทั่งมีการยุบพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชนตามลำดับ นักการเมืองก็แตกกระเซ็นไปอยู่พรรคอื่นกัน เช่นพรรคภูมิใจไทยไม่ใช่มีแต่นายศุภชัย โพธิ์สุ คนเดียวเท่านั้นที่ย้ายไป นายณพจน์ศกรฯก็หอบผ้าไปด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ออกมาเป็นเลขาพรรคเพื่อคนไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จในสนามใหญ่ จึงเบนเข็มกลับมาสนามเล็กด้วยการไปเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และได้ตั้งทีม@มหานคร นครพนม พร้อมเปิดตัวเป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบก็ตามนายธนาธรมาอยู่กลุ่มก้าวหน้าในปัจจุบัน
ด้าน นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ หัวหน้าทีมนครพนมร่วมใจ แม้จะดูว่าพรรษาทางการเมืองจะน้อย เพราะไม่เคยสัมผัสการเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมาก่อนก็ตาม เหมือนรุ่นพี่ทั้งสองคน แต่ได้สั่งสมประสบการณ์โดยติดตามคุณพ่อคือครูแก้ว นายศุภชัย โพธิ์สุ ในฐานะเลขาส่วนตัว ส.ส.ฯ ทำหน้าที่ประสานสิบทิศพรรคการเมืองต่างๆ ขณะเดียวกันก็เป็นเลขาฯรมว.มหาดไทย (ในขณะนั้น) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล คุณพ่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นน้องขวัญไม่ใช่มวยอ่อนหัดแน่นอน และในขณะทำหน้าที่เลขาฯ รมว.มหาดไทย น้องขวัญต้องเจอพวกเสือสิงห์กระทิงแรด ถ้าไม่แกร่งไม่ทันเกมจริงโดนพวกนี้ขย้ำคาเขียงนานแล้ว ฉะนั้นน้องขวัญสอบผ่านด่านหินนี้มาได้จึงไม่ธรรมดา
เมื่อทราบประวัติที่มาที่ไปของผู้สมัครกันแล้ว อยู่ที่การตัดสินใจของผู้ที่ไปใช้สิทธิในคูหาเลือกตั้ง ทั้งหมดทั้งปวงจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ที่จะเข้าไปนั่งบริหารงานในตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม ขึ้นอยู่ที่ปลายปากกาของประชาชนชาวจังหวัดนครพนม ว่า จะไว้วางใจกาเบอร์ไหน วันที่ 20 ธันวาคม รู้กัน !!
