นครพนม – “คดีพลิก” กล้องหน้ารถสาว อบต.ฯ จับภาพเหตุการณ์ ขณะขับตัดหน้า จยย.หนุ่มวัย 17 เสียชีวิต พยานปากเท็จหลบหน้าไม่กล้าไปให้ปากคำ
คืบหน้า กรณีนายธนิสร ไกยะฝ่าย อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 109 หมู่ 5 บ้านนาโพธิ์ ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำคาดแดง ทะเบียน 1กฌ 4194 นครพนม พุ่งชนรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน รุ่นอาเมร่า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 6389 นครพนม ที่มี น.ส.ลัดดา สิงหา อายุ 45 ปี พนักงาน อบต.บ้านผึ้ง เป็นคนขับ จนเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 บนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (สกลนคร-นครพนม) บ้านเทพพนม หมู่ 8 ต.บ้านผึ้ง ตรงสามแยกไป อบต.บ้านผึ้ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี กระบะเลี้ยวตัดหน้า จยย.พุ่งชน ร่างหนุ่มชาวลาวลอยก่อนตกกระแทกพื้นดับ
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- มุกดาหาร แรลลี่ลุ่มน้ำโขง MEKONG CAR RALLY ท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก ปชส. จังหวัดทั้ง 3 รับนักท่องเที่ยวปีใหม่
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
เบื้องต้นมีพยานอ้างว่านายธนิสรขับ จยย.มาด้วยความเร็วสูง ในลักษณะเอนตัวหมอบเอาหน้าแนบกับไมล์หน้าปัดรถ พอถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ของ น.ส.ลัดดาคู่กรณีขับข้ามเลนมาเพื่อจะไปทำงาน พยานอ้างว่าจังหวะนั้นนายธนิสรเงยหน้าขึ้น ก็พุ่งชนเข้าข้างตัวรถเก๋งฝั่งซ้ายอย่างจัง ร่างลอยละลิ่วกระแทกพื้นเสียชีวิตคาที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกล้องที่ติดตั้งหน้ารถของ น.ส.ลัดดาไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ปรากฏว่ากล้องหน้ารถของ น.ส.ลัดดา กลายเป็นพยานปากสำคัญ เพราะไม่ใช่อย่างที่พยานบุคคลกล่าวอ้าง ในภาพพบว่านายธนิสรขับ จยย.มาตามปกติ ไม่ได้เอนหมอบแต่อย่างใด ตรงกันข้ามรถยนต์ของ น.ส.ลัดดาต่างหากขับตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด จนเป็นเหตุให้นายธนิสรเบรกไม่ทันพุ่งชนจนตัวเองชีวิตดังกล่าว
ส่วนคนที่อ้างว่าเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุนั้น ร.ต.อ.(หญิง)จุฬารัตน์ อาจภิรมณ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้บอกไปให้ปากคำที่โรงพัก ก็ไร้เงาของพยานเหล่านั้น
ล่าสุดในค่ำวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ดังกล่าว ซึ่งตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายธนิสรหนุ่มผู้โชคร้าย พบนายอิทธิพล แสงงาม อายุ 60 ปี นางนารี ภูสมตา อายุ 58 ปี ตายายของผู้เสียชีวิต นั่งอยู่หน้าโลงศพหลานชายด้วยใบหน้าเศร้าหมอง โดยนายอิทธิพลเปิดเผยว่าชุบเลี้ยงนายธนิสรมาตั้งแต่แบเบาะ ส่วนพ่อเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ส่วนแม่ก็ไปทำงานอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี เป็นเด็กดีที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่เรียนหนังสือแค่ชั้น ม.4 เพราะฐานะทางบ้านยากจน จึงออกจากโรงเรียนมาทำงานรับจ้างหาเงินให้ตากับยาย โดยหลายชายรับจ้างทำงานทุกอย่าง ถึงฤดูทำนาก็จัดการไถหว่านด้วยตนเอง
วันแห่งการสูญเสียก่อนชีวิตคือวันที่ 26 พฤศจิกายน หลานชายพูดปรอยๆ ว่าพรุ่งนี้ก็เอาข้าวเข้ายุ้งเสร็จทุกอย่าง จะได้มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแล้ว รุ่งเช้าก็รีบสีข้าวในนาจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ขี่ จยย.ไปตามเพื่อนมาช่วยกันขนข้าวเข้ายุ้ง แต่ระหว่างที่ไปตามเพื่อนก็ถูกรถเก๋งของ น.ส.ลัดดาขับตัดหน้า เป็นเหตุให้พุ่งชนจนเสียชีวิต
ขณะที่นายอิทธิพลเล่าก็มีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา โดยบอกกับผู้สื่อข่าวว่าปีหน้าคงไม่มีใครมาทำนาให้อีกแล้ว ส่วนคู่กรณีได้มาไหว้ศพพร้อมมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1 หมื่นบาท ส่วนด้านคดียังไม่ได้มีการเจรจาใดๆ เพราะขอจัดการเรื่องศพหลานชายให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
ขณะเดียวกันมีเพื่อนๆ ของนายธนิสร ที่ผู้ตายจะไปตามมาช่วยขนข้าวเข้ายุ้ง ได้พากันมาจุดธูปไหว้ศพ โดยบอกว่า”ไม่ต้องห่วงนะข้าวขนเข้ายุ้งเสร็จหมดแล้ว” โดยจะมีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ แต่ต้องรอแม่ของผู้ตายเดินทางมาจากปราจีนฯ ก่อน ว่าจะเอาอย่างไร ส่วนบรรยากาศในงานศพเป็นไปอย่างเงียบเหงาและเศร้าสลด ทุกคนยืนยันว่านายธนิสรไม่ใช่เด็กเกเร ไม่น่ามาด่วนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: