นครพนม – วันที่ 8 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น. ณ ศาลจังหวัดนครพนม นายทวี อภิสกุลชาติ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายพงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ประจำจังหวัดนครพนม ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดนครพนม หลังถูกฟ้องเป็นจำเลย ที่มีนายทศพร สวนแก้ว อดีตข้าราชการครูโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย นางจันทร์จิรา แก่นจันทร์ รองผู้อำนวยการโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย และนายอนิรุธ แก่นจันทร์ ข้าราชการครูประจำโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามคดีหมายเลขดำ อ 1428/2563 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2563 โดยศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันนี้
ซึ่งปรากฏว่าโจทก์ทั้งสามไม่ได้เดินทางมาที่ศาล โดยมอบหมายให้นายพงษ์เสกสรร แสนสุข ทนายฝ่ายโจทก์แจ้งกับนายณพล ใบเงิน ทนายความฝ่ายจำเลย ว่า บุคคลทั้งสามไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยอีกต่อไป จึงขอถอนฟ้องและไม่ติดใจเอาความแต่ประการใด ศาลพิเคราะห์แล้วคดีนี้เป็นความผิดอันยอมความกันได้ และโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง อนุญาตให้ถอน ทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 บุคคลทั้งสามร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทวี อภิสกุลชาติ และ นายพงศ์สุคนธ์ คุณธรรมมงคล โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลอ้างว่า จำเลยได้กระทำผิดอาญาฯ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ศาลจึงได้มีคำสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 19 ตุลาคม 2563 แต่มีการขอเลื่อนมาเป็นวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ซึ่งก่อนหน้านี้โจทก์ทั้งสามได้ยื่นฟ้องนายชนะ วสุรักคะ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสด ประจำจังหวัดนครพนม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามคดีหมายเลขดำที่ อ 1429/2563 และเลื่อนไปไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 จากนั้นได้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 7 ธันวาคม 2563 ซึ่งศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีไม่มีมูลจึงพิพากษายกฟ้อง
โดยนายพงษ์เสกสรร แสนสุข ทนายความฝ่ายโจทก์เปิดเผยกับนายณพล ใบเงิน ทนายความฝ่ายจำเลย ว่า สาเหตุที่ลูกความยื่นขอถอนฟ้อง เนื่องจากวันที่ 7 ธันวาคม ศาลได้ยกฟ้องคดีของนายชนะไปแล้ว วันรุ่งขึ้นก็จะเป็นคิวของนายทวีกับนายพงศ์สุคนธ์ โจทก์จึงเห็นว่าทั้งสองคดีมีลักษณะเดียวกัน หากไต่สวนมูลฟ้องคดีนี้ศาลก็คงมีคำพิพากษายกฟ้องเช่นเดียวกับคดีของนายชนะ จึงมอบหมายให้ตนยื่นคำร้องขอถอนฟ้องดังกล่าว
โดยโจทก์ทั้งสามฟ้องว่า วันที่ 12 มีนาคม 2563 เวลากลางวันต่อเนื่องถึงวันที่ 17 มีนาคม 2563 จำเลยทั้งสองได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยกล่าวหาใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามด้วยการโฆษณา เพื่อให้โจทก์ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชังจากบุคคลที่พบเห็นข้อความดังกล่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จึงถือว่าเป็นความผิดต่อประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326,328,83,91
ส่วนคดีอาญาของนายทศพร สวนแก้ว ที่ถูกผู้ปกครองเด็กนักเรียนแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีไว้ที่ สภ.เมืองนครพนมนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม มีความเห็นควรสั่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดนครพนม ในข้อหาอนาจารบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีซึ่งเป็นการกระทำแก่ลูกศิษย์ในปกครอง ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการจังหวัดนครพนม ขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ในชั้นพิจารณาของพนักงานอัยการฯ
