นครพนม – ปาฏิหาริย์ !! พระราชทานเพลิงร่างหลวงปู่สิงห์ เกจิดังลุ่มน้ำสงคราม หัวใจไม่ไหม้ไฟ ฮือฮาพบภาพกลางเมรุคล้ายยืนลาลูกศิษย์
วันที่ 30 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากศิษย์ยานุศิษย์วัดวิชัย บ้านหนองบาท้าว หมู่ 2 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ว่า หลังจากพุทธศาสนิกชนและคณะสงฆ์ได้ร่วมกันประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่สิงห์ พรหมโชโต หรือ พระครูสุทธิพรหมโชติ อดีตรองเจ้าคณะตำบลศรีสงคราม อดีตเจ้าอาวาสวัดวิชัย พระเกจิแห่งลุ่มน้ำสงคราม เมื่อกลางดึกวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ารุ่งเช้าสรีระสังขารทุกส่วนไหม้หมด ยกเว้นหัวใจไม่ไหม้ไฟ สร้างความฮือฮาและความประหลาดใจแก่คณะลูกศิษย์ยิ่งนัก
พระครูปลัดวันเฉลิม สาสโนภาโส อายุ 27 ปี ลูกศิษย์ที่ใกล้หลวงปู่กล่าวว่า หลังหลวงปู่สิงห์ได้ละสังขาร เมื่อเวลา 15.35 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 คณะศิษย์ได้ประกอบพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศล 50 วันและ 100 วัน จนถึงวันพระราชทานเพลิงศพ เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 29 ธันวาคม โดยมีพระวิสุทธิญาณเมธี(มหาไพบูลย์ กตปุญโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2/ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
พระครูปลัดวันเฉลิมกล่าวต่อว่า หลังพระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุลอุทิศถวายแด่พระสุทธิธรรมโชติ หรือ หลวงปู่สิงห์ โดยมีพิธีเผาหลอกเวลา 15.00 น. และมีพิธีเผาจริงเวลา 20.00 น. มีพระราชสิริวัฒน์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์และอัญเชิญไฟพระราชทานจุดที่สรีระสังขารหลวงปู่ มีคณะสงฆ์จากหลายอำเภอกว่า 70 รูป พร้อมพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีกว่า 1,000 คน
ข่าวน่าสนใจ:
- นบ.ยส.24 โดย ร้อย.ฉก.ทพ.2101 โชว์ฝีมือจับผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 12,000 เม็ด
- การข่าวทหารพราน 2103 เจ๋ง รวบตัวสาวใหญ่ เดินสายส่งยาบ้าพร้อมของกลาง
- นครพนม สุดสลดเพลิงพิโรธรุ่งวอด 9 หลัง ชาวบ้านไร้ที่อยู่ จนท.เร่งช่วยเหลือ
- ‘นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อน ‘นครพนมโมเดล’ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขที่สุด
พระลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ กล่าวต่อไปว่า หลังการเผาร่างหลวงปู่สิงห์ผ่านไประยะหนึ่ง ลูกศิษย์พบเห็นสิ่งผิดปกติบนเมรุชั่วคราว จึงใช้ฟื้นจำนวนหนึ่งและถ่าน 4 กระสอบสุมไฟให้ลุกโชน จนถึงเวลา 24.00 น.พบว่าสังขารหลวงปู่สิงห์ไม่ไหม้ไฟ จึงเพิ่มถ่านอีก 4 กระสอบ เชื้อฟืนจำนวนหนึ่งและยางรถยนต์ 2 เส้นสุมอีกรอบ พร้อมเฝ้าสังเกตที่เมรุชั่วคราวเพื่อดูว่าสรีระสังขารจะไหม้หมดหรือไม่
“กระทั่งเวลา 04.00 น. ได้มีโยมคนหนึ่งได้วิ่งหน้าตื่นมาพบอาตมา บอกว่ายังเหลือชิ้นส่วนหนึ่งของหลวงปู่ คือหัวใจบนตะแกรงที่รองไว้ไม่ไหม้ไฟ มีขนาดใหญ่เท่า 2 กำปั้นมือ จึงเป็นที่ประหลาดใจว่าทำไมชิ้นส่วนหัวใจหลวงปู่สิงห์จึงไม่ไหม้ไฟ ทั้งที่สุมถ่านและเชื้อฟืน 2-3 รอบ จนเวลา 05.00 น. จึงประกอบพิธีเก็บอัฐิ และได้มีแพทย์จาก รพ.ศรีสงคราม เดินทางมาพิสูจน์ยืนยันแล้วว่า เป็นชิ้นส่วนของหัวใจไม่ไหม้ไฟ เป็นที่ประหลาดใจและอัศจรรย์แก่ผู้ที่พบเห็นยิ่งนัก” พระครูปลัดวันเฉลิม กล่าว
พระครูปลัดวันเฉลิมเล่าเพิ่มเติมว่า หลวงปู่สิงห์ก่อนท่านจะละสังขารในวัย 97 ปี พรรษา 70 ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ญาคูสุ หรือ พระครูพิทักษ์อุดมพร อดีตเจ้าอาวาสเจ้าคณะตำบลนาเดื่อและอดีตเจ้าอาวาสวัดวิชัยรูปแรก ซึ่งหลวงปู่ญาคูสุยังเป็นศิษย์สืบสายธรรมพระอาจารย์สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระเกจิผู้สร้างพระธาตุท่าอุเทน ศิษย์ของสำเร็จลุนบรมครูผู้วิเศษแห่งนครจำปาศักดิ์ ฝั่ง สปป.ลาว
“ย้อนหลังไปเมื่อ 50 ปีที่แล้วในงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ญาคูสุ ซึ่งเป็นพระอาจารย์หลวงปู่สิงห์ ญาติโยมและชาวบ้านที่มาร่วมงานในขณะนั้น ต่างก็ตกตะลึงเมื่อพบหัวใจหลวงปู่ญาคูสุก็ไม่ไหม้ไฟเช่นกัน มีเรื่องเล่าลือว่าที่กระหม่อมหลวงปู่สิงห์และหลวงปู่ญาคูสุ สักยันต์อิติปิโส 8 ทิศที่กะโหลก เท่าที่เคยพบเห็นมาเนื้อหนังมังสาสรีระ เมื่อถูกไฟสุมจะต้องไหม้ไฟ อาตมาจึงประหลาดใจยิ่งนัก อีกทั้งยังพบว่าหลังมีญาติโยมคนหนึ่งได้ถ่ายภาพขณะเผาร่างหลวงปู่ พบภาพคล้ายหลวงปู่ยืนโบกมือลาลูกศิษย์ สร้างความฮือฮายิ่งนัก”
พระใบฏีกายงยุทธ อินทรปัญโญ อายุ 24 ปี เลขานุการวัดวิชัย กล่าวว่า หลังมีพิธีเก็บอัฐิสามหาบ เวลา 13.09 น. ได้นำอัฐิหลวงปู่สิงห์ไปลอยอังคาร ที่บริเวณกลางแม่น้ำโขงตรงรอยพระพุทธบาทเวินปลา วัดพระบาทเวินปลา ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ขากลับมาตรวจดูที่เมรุชั่วคราว แล้วยังพบว่าฟื้นยังไม่มอดดับสนิทแต่อย่างใด จึงปรึกษาหารือกับลูกศิษย์ เพื่อนำชิ้นส่วนหัวใจที่ไม่ไหม้ไฟ บรรจุในโถแก้วปิดทองคำ และเก็บไว้ที่กุฎหลวงปู่เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมากราบไหว้บูชา เป็นสิริมงคลในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
พระใบฎีกายงยุทธยังกล่าวด้วยว่า ขณะหลวงปู่มีชีวิตได้ให้ธรรมะกับลูกศิษย์ว่า “ตายไปไฟกะไหม้เมิ่ด บ่เหลือหยั่ง คันสิเหลือ กะมีแต่บุญ คือเรื่องราวดีๆ ตอนที่เฮามีชีวิต มีลมหายใจในโลกกะเท่านั้น (อ้างอิง) จากสามเณรเฮง สุภรอินทร์ (มหากิตติ) ศิษย์ผู้อุปัฏฐากหลวงปู่สิงห์ กล่าวทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: