นครพนม – วันที่ 13 มกราคม 2564 ที่บ้านขามเฒ่าและบ้านนาโดน ตำบลขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกษตรกรมีการปลูกลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 หรือ นพ.1 และเป็นพืชเศรษฐกิจตัวแรกของจังหวัดนครพนมที่ได้รับการทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เป็นสินค้า GI มาตั้งแต่ปี 2560 ด้วยมีลักษณะเด่นเฉพาะตัว มีรสหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาด จึงทำให้เป็นที่นิยมรับประทานของประชาชนทั่วไป
และในช่วงนี้ต้นลิ้นจี่กำลังเริ่มจับดอกและออกผล เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นมาเร็วกว่าทุกปี ทั้งยังมีความต่อเนื่องทำให้คาดว่าในปีนี้เกษตรกรจะได้ผลผลิตที่มากกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้นนายวินัย คงยืน รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยเกษตรอำเภอเมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้ลงพื้นที่ประเมินปริมาณผลผลิตร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ ว่าจะได้มากน้อยขนาดไหนเพื่อวางแผนการจำหน่าย รวมถึงการให้คำแนะนำ แนะแนวทาง เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่มากขึ้นด้วยเทคนิคและวิธีการต่าง ๆ ที่ควรดูแลต้นลิ้นจี่ในช่วงนี้จนถึงฤดูเก็บเกี่ยว
นายวินัย คงยืน รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการลงพื้นที่สำรวจและพูดคุยกับเกษตรกร คาดว่าในปีนี้จะมีผลลิ้นจี่ออกมาวางจำหน่ายในช่วงเดือนเมษายนประมาณ 300 – 400 ตัน ถ้าเกษตรกรมีการนำเทคนิคและวิธีการในการดูแลไปปฏิบัติเพิ่มเติมก็คาดว่าจะมีมากกว่านั้น เพราะในช่วงนี้เป็นระยะดอกบาน ที่เกษตรกรควรให้น้ำต้นลิ้นจี่อย่างสม่ำเสมอ ทั้งต้องหาวัสดุมาคลุมบริเวณโคนต้นเพื่อรักษาความชื้นในดิน รวมถึงต้องพ่นปุ๋ยหรือฮอร์โมนทางใบเพื่อบำรุงช่อดอกและการติดผล โดยใช้ปุ๋ยสูตร 10-45-10 หรือ 10-52-17 ในอัตรา 20-30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร และถ้าภายในสวนมีการนำผึ้งมาเลี้ยงในระยะนี้ก็จะช่วยในการผสมเกสรได้ดีขึ้น
ที่สำคัญคือต้องงดการพ่นสารเคมีที่จะกำจัดโรคแมลงทุกชนิด เพื่อให้แมลงมาช่วยกันผสมเกสรให้ได้มากที่สุด ส่วนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เกษตรกรยังต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอเช่นเดิม เพราะถ้าขาดน้ำจะทำให้ผลลิ้นจี่แคระแกรนและร่วงหล่น เมื่อติดผลมีขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตรก็ควรใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อบำรุงให้ผลโตสม่ำเสมอ เมื่อผลโตปานกลางให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ในอัตรา 1-3 กิโลกรัมต่อต้น ระยะนี้ต้องระวังการระบาดของหนอนเจาะขั้วผลมวนลำไยด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
จากนั้นในช่วงเดือนมีนาคมต้องเพิ่มการให้ปุ๋ยทางใบเพื่อช่วยให้ผลมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยใส่ปุ๋ยสูตร 10-20-30 ในอัตรา 20-30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร และก่อนการเก็บเกี่ยวผลผลิต 30 วัน ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลให้ดีขึ้น
โดยระยะนี้ที่ผลลิ้นจี่กำลังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จะมีน้ำหนักมากก็ควรหาไม้ไผ่หรือวัสดุที่มีความแข็งแรงมาค้ำกิ่งเพื่อช่วยพยุงไม่ให้กิ่งต้นลิ้นจี่ฉีกหัก เมื่อผลเริ่มเปลี่ยนสีก็ต้องระวังการเข้าทำลายของผีเสื้อมวนหวานและแมลงวันทอง และเมื่อถึงเดือนเมษายนที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิต เกษตรกรก็ต้องงดให้น้ำก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 7-10 วัน เพื่อให้ผลมีคุณภาพดี ซึ่งหากเกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะนำที่กล่าวมาแล้ว จะทำให้ต้นลิ้นจี่มีโอกาสติดดอกออกผลมากยิ่งขึ้น นั้นหมายถึงเกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: