นครพนม – รศ.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย รก.อ.มนพ. แจงข้อสงสัยไม่ยุบ ว.การบินฯ เผยตั้งใจขับเคลื่อนเป็น ม.ชั้นนำ คณาจารย์สงสัยเด็กอดีตผู้บริหารพรึ่บ ผงะพบ ว.พยาบาลก็บ่จี๊
กรณี กลุ่มประชาคมวิทยาลัยการบินนานาชาติ(ว.การบินฯ) ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม,ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ และ สำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากวาระการประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการบริหารฯ ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 12 มกราคม ในวาระที่ 5.7 เป็นการพิจารณาให้ความเห็นชอบการยุบเลิกส่วนราชการ ส่วนงานของมหาวิทยาลัยนครพนม กรณีวิทยาลัยการบินนานาชาติ ภายในได้ดึงเรื่องนี้กลับ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง เพราะมีข่าวลือหนาหูว่าเหมือนมีธงที่เสนอโดยคณะอนุกรรมการ ที่ไม่มีความรู้ด้านการบินเป็นผู้เสนอให้ยุบ นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่ากลุ่มทุนใหญ่ของไทยจะเข้ามาเทคโอเวอร์ ว.การบินฯ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 15 มกราคม 2564 รศ.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม(รก.อ.มนพ.) เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมาดำรงตำแหน่งในฐานะคณะบุคคลตามกฎหมาย ตามคำสั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในมาตรา 51 วรรค 2 แห่ง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาธรรมาภิบาลในมหาวิทยาลัยนครพนม หลังมีคำสั่งปลดอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม เกี่ยวกับปัญหาธรรมาภิบาลในองค์กร จึงต้องตั้งคณะกรรมการมาควบคุมกำกับดูแล
ในส่วนของปัญหากรณีมีข่าว จะมีการเสนอยุบ ว.การบินฯ ตนยืนยันว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนของคณะบุคลากร เจ้าหน้าที่ ฯลฯ มหาวิทยาลัยนครพนมไม่เคยมีมติเสนอยุบ ว.การบินฯ เพราะการที่จะยุบฯเป็นเรื่องใหญ่ และจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
ข่าวน่าสนใจ:
- ฝ่ายปกครอง อ.ปลาปากสนธิกำลังตร .บุกรวบหนุ่ม 20 ขาใหญ่ จำหน่ายยาบ้า โดดหลังบ้าน คว้ามีดพร้าเปิดทาง หลบหนีไปไม่รอด
- องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทานแก่ประชาชนผู้ประสบภัยหนาว ในพื้นที่ จ.นครพนม
- ม.นครพนม จัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) สู่การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในระดับโลก
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
รักษาการอธิการบดีฯ กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญไม่ใช่เรื่องการยุบวิทยาลัยการบิน สิ่งที่คณะบุคคลมหาวิทยาลัยนครพนม กำลังดำเนินการตามมติที่ประชุม คือตนได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับ การเงินการคลัง ทำบัญชีสรุปการเงินย้อนหลัง ตั้งแต่ประมาณปี 2549 ที่มีการก่อตั้งวิทยาลัยการบินนานาชาติ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการทำบุญชีสรุปรายรับรายจ่าย เกี่ยวกับงบประมาณ เพื่อจะเป็นแนวทางเริ่มต้นแก้ไขปัญหา เพราะปัจจุบันวิทยาลัยการบินประสบปัญหาการเงินการคลัง งบประมาณไม่เหลือ สูญหายไปเกือบ 200 ล้านบาท แต่มีภาระค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 3.6 ล้านบาท แต่ไม่ได้สรุปว่ามาจากการบริหารจัดการล้มเหลว หรือการทุจริตในองค์กร แต่หากสรุปหาที่ไปที่มาของเงินได้จะเป็นแนวทางแก้ไข เพื่อหาทางออกว่า เงินงบประมาณหายไปไหน ใครนำออกไป ทำตามระเบียบขั้นตอนกฎหมายหรือไม่ แต่หากมีการกระทำผิดจะต้องดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มบุคคลเกี่ยวข้องแน่นอน ที่สำคัญต่อมาจะต้องหาข้อสรุปเกี่ยวกับประเด็นงบอุดหนุนของรัฐบาลในปี 2564 จากเคยได้รับงบอุดหนุนประมาณปีละ 30 -50 ล้านบาท แต่ปัจจุบันไม่ได้งบจากรัฐบาลเลย ซึ่งจะต้องเสนอปัญหากับรัฐบาล รวมถึงปัญหานักศึกษาที่ขาดแคลน แต่ยังต้องดูแลศิษย์การบินอีก 26 คน ที่กำลังศึกษาอยู่
อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจในการวางแนวทางแก้ไขของ มหาวิทยาลัยนครพนม จะไม่มีการยุบวิทยาลัยการบินแน่นอน เพราะมีปัญหาตามมาหลายด้าน และจะต้องเสนอไปยังรัฐบาลหากจะมีการยุบจริง สำคัญที่สุดจะมีแนวทางเรื่องการบริหารจัดการเพื่อให้อยู่รอดเป็นหลัก แต่ก่อนที่จะแก้ไขปัญหาได้ต้องย้อนกลับไปดูเรื่องบัญชีการเงินการคลังให้จบ ตนมีคำสั่งให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 15 วัน เพื่อจะเป็นแนวทางในการบริหารจัดการขั้นต่อไป และตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางแก้ไข ปัจจุบันวิทยาลัยการบินต้องของบสนับสนุน ใช้เงินสะสมมหาวิทยาลัยนครพนม เป็นค่าใช้จ่ายไปแล้วกว่า 20 ล้านบาท เพราะประสบปัญหาการเงิน ซึ่งปัญหาที่ผ่านมาตนยังรอการสรุปหาที่มาเงินหายไปไหน ค่อยมาวางแนวทางดำเนินการตามกฎหมาย
รศ.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการสอบสวนเอาผิดทั้งเรื่องปัญหาปมเครื่องบินตก หรือการนำเงินไปใช้จ่าย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่หลายคนติดตาม และเกิดขึ้นก่อนที่ตนมาดำรงตำแหน่ง ขอยืนยันว่ายังคงดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อให้เกิดธรรมาภิบาลในองค์กร และขอให้เชื่อมั่นการทำงานของคณะบุคคล เราพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาตรงไปตรงมา เพราะปัญหาสำคัญที่สุดของมหาวิทยาลัยนครพนม คือ ความขัดแย้งภายใน ที่จะต้องช่วยกันแก้ไข
รก.อ.มนพ. เปิดเผยในประเด็นที่หลายคนมีความเคลือบแคลงใจ ในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด ที่เป็นอดีตผู้บริหาร มนพ. ว่า ทราบข้อมูลมาจากคณาจารย์ที่เป็นเหมือนพลังเงียบ ที่ผ่านมาอดีตผู้บริหารดำเนินการสอบสวนคนอื่นที่ไม่ใช่ทีมอดีตผู้บริหารรวดเร็วมาก บางกรณีแค่บัตรสนเท่ห์ใบเดียวก็ตั้งสอบวินัยร้ายแรงแล้ว ดังนั้นต้องคืนความเป็นธรรมให้กับคนกลุ่มนี้ และกำลังพิจารณานำเข้ามาร่วมทีมทำงาน เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน มนพ.อย่างมีประสิทธิภาพ โดยยืนยันว่าได้ปิดช่องการกลับเข้ามาของอดีตผู้บริหารบางคน ที่มีเรื่องร้องเรียนเป็นหางว่าว และต้องแก้ไขข้อระเบียบบางเรื่องที่เขียนเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและตนเอง
ส่วนแนวทางการผลักดันมหาวิทยาลัยนครพนม ขึ้นมาอยู่แถวหน้าหลังแก้ไขกฎระเบียบ ข้อบังคับ และจะใช้บุคลากรในองค์กรคนหนุ่มคนสาวร่วมขับเคลื่อน โดยกล่าวว่า”ในเรื่องของทิศทางของมหาวิทยาลัยนครพนมที่ผมเข้ามาบริหารในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมา ผมก็พยายามที่จะปลุกให้คนภายในของมหาวิทยาลัยมีความฮึกเหิม ในการที่จะขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยนครพนมให้บรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่คณะบุคคลได้กำหนดไว้ ก็คือ การมุ่งเป้าให้เป็นมหาวิทยาลัยพัฒนาชุมชนเชิงพื้นที่ชั้นนำของประเทศ ในอีก 5 ปีหรือ 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจากศักยภาพที่ผมได้ศึกษามาในระยะเวลาเดือนเศษนั้น ผมเห็นว่าบุคลากรที่นี่มีพลัง มีความรู้ มีความสามารถ และมีประสบการณ์สูงพอที่ได้เข้าไปทำงานให้กับชุมชนหลายแห่ง ความโชคดีของเราอีกประเด็นหนึ่งก็คือการที่รัฐบาลมีโครงการจัดตั้งให้มีมหาวิทยาลัยสู่ตำบล ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลครบทุกตำบลในจังหวัดนครพนม นี่ก็คือศักยภาพที่เราจะแสดงให้ชุมชนได้เห็นภาพว่า มหาวิทยาลัยนครพนมมีความพร้อมที่จะเข้าไปแก้ปัญหาในทุกมิติของชุมชน ของสังคม เพื่อให้เขามีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ก็อยากจะฝากความคาดหวังที่พวกเราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้กับประชาชนชาวนครพนม ให้ได้ประจักษ์และสนับสนุนภารกิจของประชาชนชาวนครพนม ในขณะเดียวกันผมก็คาดหวังว่า ชาวนครพนมจะสนับสนุนภารกิจของมหาวิทยาลัยนครพนมต่อไปด้วยครับ”
แหล่งข่าวใน มนพ. เผยว่าคณาจารย์ทุกคนต่างฝากความหวังไว้กับคณะบุคคล ตามคำสั่ง 103/2563 ให้มาแก้ไขปัญหาเรื่องธรรมาภิบาล ล่วงเลยมาเป็นเวลา 8 เดือน ยังไม่เห็นอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากนี้มีอดีตผู้บริหารคุยโวว่า ได้พูดคุยกับประธานคณะบุคคลแล้ว ว่า ท่านจะไม่ดำเนินการทางกฎหมาย พร้อมส่งเด็กในคาถาเกือบ 10 คน เข้ามาอยู่ในทีมผู้บริหารชุดนี้ด้วย บางคนเป็นลูกจ้างพนักงาน มนพ. ไม่สามารถแต่งตั้งเป็นรองอธิการบดีได้ หรือบางคนถูกคำสั่งมาตรา 51 เพราะมีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดของอดีตผู้บริหาร แต่กลับมีตำแหน่งสำคัญในปัจจุบัน “หรือเป็นสัญญาณการสมคบคิดระลอกใหม่” แหล่งข่าวฯกล่าว
นอกจากนี้ยังข่าวลือว่าวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครพนม ก็ไม่มีเงินที่จะเลี้ยงตัวเองแล้วเหมือนกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมด ล้วนมาจากกลุ่มอดีตผู้บริหารที่ไร้ประสิทธิภาพทั้งสิ้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: