นครพนม – รวบเซียนไก่ชนพร้อมยาบ้า สารภาพขายให้วัยรุ่นในหมู่บ้าน เผยสาวทาสยานรกยอมเอาตัวแลกเพื่อได้เสพ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนม ว่า นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอศรีสงคราม ได้มอบหมายให้ นายอนันธิศักดิ์ ผลบุญ ปลัดอำเภอฯ พร้อมชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อส.ฯ ได้จับกุมตัวนายธวัช อินทรักษ์ หรือก้าง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 12 บ้านดงน้อย ต.สามผง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 164 เม็ด บริเวณป่าไผ่ท้ายหมู่บ้าน และผู้หญิงอีก 2 คนที่รับว่าเป็นผู้เสพ คือ นางสาวรุ่งทิวา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี และนางสาวสุนิสา(สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี นำตัวทั้งหมดไปสอบสวนและตรวจหาสารเสพติด ปรากฏว่าทั้งสามคนมีฉี่เป็นสีม่วง จึงตั้งข้อกล่าวหานายธวัช อินทรักษ์ หรือก้าง มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย นางสาวรุ่งทิวา และนางสาวสุนิสา ในข้อกล่าวหา เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะที่มีสารเสพติด (เมทแอมเฟตามีน)ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทราบว่านายก้างผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบมั่วสุม และจำหน่ายยาบ้าให้วัยรุ่นในหมู่บ้านทั้งหญิงและชาย สร้างความเดือดร้อนในพื้นที่มาช้านาน นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอศรีสงคราม จึงประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสงคราม ร่วมวางแผนส่งสายลับเข้าไปหาข่าว ทราบว่านายก้างมักจะนัดวัยรุ่นไปมั่วสุมเสพยากันที่สนามชนไก่ท้ายหมู่บ้านเป็นประจำ จึงเข้าไปจับกุมพบนายก้างนั่งอยู่ข้างกอไผ่ โดยมีหญิงสาวสองคนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์อีกด้านหนึ่ง นายก้างเห็นเจ้าหน้าที่มีท่าทีลุกลี้ลุกลน แต่ถูกสั่งให้อยู่นิ่งๆห้ามลุกไปไหน ตรวจค้นในตัวไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตรงที่นายก้างนั่งมีขวดแก้ววางอยู่ใกล้ๆ เมื่อสอบถามว่าขวดนี้ของใครนายก้างตอบเป็นของตน เปิดดูภายในพบยาบ้าบรรจุอยู่ ตรวจนับได้ 164 เม็ด จึงนำตัวทั้งหมดไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.ศรีสงคราม
นายก้างอ้างว่ารับซื้อยาบ้าจากวัยรุ่นในหมู่บ้านอีกทอดหนึ่ง จำนวน 200 เม็ด ราคา 6,000 บาท นำมาขายให้วัยรุ่นเม็ดละ 60 บาท ส่วนหนึ่งก็เก็บไว้เสพบ้าง โดยมีผู้มาร่วมเสพทั้งหญิงและชาย โดยเฉพาะคนเสพที่เป็นหญิงถ้าไม่มีเงินซื้อ ก็จะแลกด้วยการหลับนอนมีเพศสัมพันธ์กัน เป็นต้น
ตามประวัตินายก้างมีอาชีพทำนา และเป็นเซียนไก่ชน มีส่วนพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด เริ่มจากซื้อเสพก่อนผันมาเป็นทั้งผู้ค้าและเสพ โดยก่อนหน้านี้กลางปี 2563 หัวหน้าขบวนการรายใหญ่ที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและยึดทรัพย์จำนวนหลายสิบล้าน ขณะนี้คดียังไม่สิ้นสุดและผู้ต้องหาทั้งหมดถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำกลางจังหวัดนครพนม
