นครพนม – สอบ ”จ่าหำแหล่” มาราธอน 5 ชั่วโมง ปมฆ่าหมวดบอลกองดุริยางค์ ทีมสังหารมืออาชีพวางแผนเฉียบ เชื่อใช้วัตถุห่อฑูตมรณะเก็บปลอกกระสุน
คืบหน้า คดีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์จ่อยิง ร.ท.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210(รอง ผบ.มว.ดุริยางค์ มทบ.210) ในระยะเผาขนเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีบรอนซ์ ทะเบียน คขร 222 สงขลา ริมถนนหน้ากองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ร้อย.สสช.ร.3 พัน.3) หมวดยานยนต์ฯ (มว.ยานยนต์ ร.3 พัน.3) ในค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้เชิญตัว จ.ส.อ.สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ หรือจ่าหำแหล่ ครูฝึกหน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) /ครูฝึกทหารใหม่และเยาวชน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยพัวพันการเสียชีวิตของหมวดบอล โดยใช้ห้องศูนย์ปฏิบัติการ สภ.เมืองนครพนม เป็นห้องสอบสวน มี พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) ร่วมสอบปากคำด้วย ใช้เวลาการสอบนานถึง 5 ชั่วโมง
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะที่ห้องสอบสวนอีกด้านหนึ่ง ร้อยเวรร่วมฯก็นำสารวัตรทหาร(สห.) จำนวน 13 นาย ที่เข้าเวรยามตามจุดต่างๆ ในคืนวันเกิดเหตุ และแพทย์ พยาบาล ที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุเป็นทีมแรก ว่ามีการโต้ตอบอะไรกับหมวดบอลบ้าง เนื่องจากหลังถูกยิงแล้วมีพยานที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเข้าให้การช่วยเหลือตัวหมวดบอล ได้ขอร้องให้ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ แสดงว่าหลังถูกยิงหมวดบอลยังไม่เสียชีวิตทันทียังสามารถพูดจาได้ เบื้องต้นทราบว่าอาวุธสังหารเป็นปืนพกสั้นออโตเมติกขนาด 11 มม. ส่วนหัวกระสุนที่หายไป 2 นัด ยังไม่พบ อยู่ระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียด
ซึ่งผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น พบหัวกระสุนปืนขนาด . 45 หรือ 11 มม. ฝั่งบริเวณใต้รักแร้จำนวน 1 หัว โดยเป็นที่น่าข้อสังเกต ว่า เนื่องจากไม่พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุ รวมถึงหัวกระสุนอีก 2 นัด แม้กองพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ นำเครื่องตรวจหาวัตถุสแกนค้นหาแล้ว คาดว่าคนร้ายอาจมีการวางแผน และมีการลงมือเป็นทีม และอาจมีการทำลายเก็บหลักฐานปลอกกระสุน ไปจากที่เกิดเหตุ
จากคำเปิดเผยของแหล่งข่าวที่มีความรู้เกี่ยวกับการใช้อาวุธปืน ว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืนเป็นอย่างดี กรณีที่หาปลอกกระสุนไม่เจอ เพราะมือปืนนำวัตถุบางอย่างห่ออาวุธปืน เมื่อกระหน่ำยิงแล้วปลอกจึงไม่ตกลงพื้น ซึ่งมือสังหารรู้ดีว่าอานุภาพการสะบัดของอาวุธปืนขนาด 11 มม.นั้นแรงกว่าปืนลูกซอง ส่วนหัวกระสุนเมื่อทะลุออกจะปลิวไปไกลมาก
ด้านการสืบสวนสอบสวนเชิงลึก คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน และต้องเป็นบุคคลที่รู้ความเคลื่อนไหวหมวดบอลเป็นอย่างดี และเป็นคนส่งสัญญาณให้มือสังหารว่าหมวดบอลกลับเข้ามาเอารถ จยย.ที่จอดอยู่หน้าหมวดกองดุริยางค์แล้ว ส่วนมือปืนเบื้องต้นสันนิษฐานว่าแอบอยู่ในป่า ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจเส้นทางหมวดบอลขับ จยย.จากกองดุริยางค์มาถึงจุดเกิดเหตุแล้ว มือปืนซุ่มอยู่ในที่มืดลับตาคน ไม่ใช่อยู่ในป่าตามที่ตั้งข้อสงสัยไว้ โดยสตาร์ทเครื่อง จยย.รอเหยื่อ กระทั่งหมวดบอลขับผ่านมา ก็เร่งเครื่องตีประกบด้านซ้ายแล้วเรียกชื่อหมวดบอลก่อนกระหน่ำยิงจนเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่ามีความคืบหน้าไปมาก อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้เร่งสืบสวนสอบสวน พยานแวดล้อมทุกคน รวมถึงสรุปพยานหลักฐานทุกด้าน ประกอบผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช มั่นใจว่าจะเชื่อมโยงจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน ส่วนประเด็นการฆาตกรรม ยังไม่ตัดทิ้งทุกประเด็น ทั้งปมชู้สาว ขัดแย้งการทำงาน รวมถึงสันนิษฐานว่า คนร้ายอาจจะมีการวางแผนทำงานเป็นทีมมากกว่า 1 คน อยู่ระหว่างการเร่งรัดคดีให้ชัดเจนมากที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: