X

นายก อบจ.นครพนม แถลงนโยบายก่อนเข้าทำงาน

นครพนม – นายก อบจ.นครพนม แถลงนโยบายก่อนเข้าทำงาน อปท.บันทึกหน้าประวัติศาสตร์ มีนายกหญิง+ส.อบจ. อายุน้อยที่สุดอยู่ในสถานที่เดียวกัน

วันที่ 2 มีนาคม 2564 เวลา 13.30 น. นายทันใจ ณ รังสี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(อบจ.ฯ)  เปิดประชุมสภา อบจ.ฯ สมัยสามัญฯ  ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุมชั้น 3 สภา อบจ.นครพนม ในการนี้ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ได้แถลงนโยบายการบริหารงานก่อนเข้ารับหน้าที่ โดยมีสมาชิกสภา อบจ.นครพนม จำนวน 30 คน/เขต และบุคคลภายนอก อาทิ  นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 พรรคเพื่อไทย ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ เข้ารับฟังการแถลงนโยบายครั้งนี้ด้วย

นายก อบจ.นครพนม ได้แถลงนโยบายต่อสภาฯ ว่า 4 ปีนับจากนี้ไป จะสร้างสรรค์สังคมนครพนมเป็นสังคมอยู่ดีมีสุข โดยมีเป้าหมายหลักจะพัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนฯ ให้มีความกินดี อยู่ดี มีความสุข และจะยึดความเดือดร้อน ความต้องการของประชาชนเป็นศูนย์กลางของการทำงาน

“สี่ปีจากนี้คุณภาพชีวิตของประชาชนชาวนครพนมจะต้องดีขึ้นกว่าเดิม มีความสุขมากขึ้น คนนครพนมจะต้องเป็นคนที่มีความสุขที่สุด แม้จะไม่ใช่คนร่ำรวยที่สุด จังหวัดนครพนมจะเป็นจังหวัดที่จะใช้ดัชนีชี้วัดความสุขของประชาชน เป็นเครื่องวัดความสำเร็จการบริหารงานของฝ่ายบริหารของ อบจ.ฯ เพราะเราเชื่อว่าความสุขมวลรวมประชาชนสำคัญกว่าผลิตภัณฑ์รวมประชาชาติ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จแบบเดิม ที่ใช้กันมายาวนาน” น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม กล่าว

ทั้งนี้แนวนโยบายสำคัญสำหรับการบริหารงานของฝ่ายบริหาร จะเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข มี 3  ประการ คือ 1.การส่งเสริมอาชีพและดูแลสุขภาพ และช่วยเหลือผู้เดือดร้อน มีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงพอต่อรายจ่าย และมีความสามารถที่จะปลดหนี้ได้ ซึ่งเป็นความต้องการลำดับแรกของประชาชน และนโยบายเร่งด่วนที่จะลงมือทำทันที คือ การส่งเสริมอาชีพและดูแลสุขภาพ อาทิ ส่งเสริมอาชีพให้ประชาชน คนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มวิชาชีพต่างๆ และผู้ยังไม่มีอาชีพ ตลอดจนผู้ที่ประสงค์จะมีอาชีพ ทั้งเกษตรกร ค้าขาย ช่างฝีมือ รับจ้างและบริการทั่วไป

อีกทั้งสนับสนุนโครงการคลินิกแก้หนี้สินและความยากจน,โครงการตรวจสุขภาพถึงบ้านร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  และผลักดันให้เกิดโรงพยาบาล อบจ.นครพนม  โดยใช้ระบบแพทย์เสมือนจริง (Virtual Doctor)

2.สนับสนุนและส่งเสริมกีฬา และการท่องเที่ยว เนื่องจากจังหวัดนครพนมเป็นเมืองแห่งความสุข สงบ ร่มเย็น จนมีคำกล่าวว่าเป็นเมือง 3 ที่สุด ประกอบด้วย ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดคือพระธาตุพนม,สวยงามที่สุดคือสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 และงามที่สุดคือทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำโขง,เส้นทางจักรยานยาวที่สุด รวมถึงพญาศรีสัตตนาคราชอันเป็นพญานาคศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำโขง

จึงได้มีการส่งเสริมให้มีการพัฒนาและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว สนับสนุนให้มีหอคอยชมเมือง,ศูนย์จำหน่ายสินค้าพื้นเมือง รวมทั้งพัฒนา ส่งเสริมให้มีแหล่งจำหน่ายสินค้าให้เพียงพอในหลายๆช่องทางฯ และสนับสนุนให้มีตลาดกลางสินค้าการเกษตร ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ เอกชน เพื่อผลักดันโครงการด้านเศรษฐกิจฯในทุกมิติ เช่นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ตลาดสินค้า 4 ประเทศ เป็นต้น

นอกจากนี้ได้มีนโยบายส่งเสริมกีฬาและการท่องเที่ยวของคนนครพนม ส่งเสริมให้เยาวชน ประชาชน หันมาให้ความสนใจกีฬามากขึ้น โดยร่วมมือกับองค์กรต่างๆทั้งภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ตลอดจนภาคเอกชน จัดการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆอย่างกว้างขวาง โดยมีเป้าหมายพัฒนาความสามารถและศักยภาพด้านการกีฬาของเยาวชนลูกหลานคนนครพนม ทั้งในระดับอาชีพ สมัครเล่นและกีฬาเพื่อสุขภาพ

ด้านการท่องเที่ยว อบจ.ฯจะจัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์,เชิงศิลปวัฒนธรรม,เชิงเกษตรและการท่องเที่ยววิถีชาวบ้าน(Home Stay) ซึ่งเป็นลักษณะการท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับจังหวัดนครพนมมากที่สุด

3.ส่งเสริมด้านการศึกษา โดยมีนโยบายสนับสนุนให้ลูกหลานได้รับการศึกษาตามความต้องการของตนเองในระดับวิชาชีพ อุดมศึกษาเท่าที่ผู้เรียนจะมีความสามารถเรียนได้ เช่น สนับสนุนทุนการศึกษาให้เยาวชนได้เรียนตามหลักสูตรอย่างทั่วถึง เพื่อเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตประจำวันทั้งในปัจจุบันและอนาคต

หากเยาวชนมีความสามารถพิเศษ ก็ให้ได้เรียนตามต้องการเพื่อกลับมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาจังหวัด ในโครงการเรียนจบต้องมีงานทำ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องกลับมาพัฒนาตำบลหรือจังหวัดของตนเมื่อสำเร็จการศึกษา

มีโรงเรียนต้นแบบด้านคุณธรรม พัฒนาครูและบุคลากรทางด้านการศึกษา พร้อมทั้งจะพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรม ส่งเสริมการเรียนรู้ผสานพลังการพัฒนาจังหวัด ภายใต้แนวคิดภูมิใจในถิ่นเรา

นอกเหนือจากนโยบายเร่งด่วนทั้ง 3 ประการแล้ว ปลีกย่อยที่ต้องทำควบคู่กันคือ “ถนนดี” ในโครงการถนนไร้ฝุ่น,”น้ำพอ” เพื่อจัดสรรงบจัดสร้าง ปรับปรุงแหล่งน้ำ เพื่อการเกษตร และเพื่อการอุปโภคบริโภค,”ไฟสว่างทั่วถึง” ด้วยการเพิ่มไฟฟ้าส่องสว่างสู่ไร่นาให้สะดวกต่อการเดินทาง และการประกอบอาชีพ

จากนั้นประธานสภาฯ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสภาฯ อภิปรายนโยบายของ นายก อบจ.นครพนม ส่วนใหญ่ต่างให้การสนับสนุนและเห็นชอบ และมีสมาชิกบางคนให้เพิ่มเติมในบางส่วน เช่น การขุดลอกลำน้ำที่ตื้นเขิน เป็นต้น ก่อนจะปิดประชุมในเวลา 16.00 น.

และในช่วงที่มีการมอบดอกไม้ กระเช้าของขวัญ เพื่อแสดงความยินดีกับนายก อบจ.นครพนมคนใหม่ นายธนากร ปราณีนิตย์ ส.อบจ.เขต 1 อำเภอธาตุพนม ได้เข้าไปทักทายกับ น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ โดยทั้งสองได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของที่สุดแห่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) คือ น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ ได้รับเลือกเป็น นายก อบจ.นครพนม ที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทยคือเพียง 36 ปี ขณะที่นายธนากรณ์ ปราณีนิตย์ ได้รับเลือกเป็น ส.อบจ.ฯ ที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทยเช่นเดียวกันคือเพียงวัย  26 ปีเท่านั้น ดังนั้น อบจ.นครพนม จึงมีสีสันเพิ่มขึ้นและสร้างความมีเสน่ห์ให้แก่ อปท.เป็นวงกว้าง ซึ่งควรได้รับการจดบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์หน้าการเมืองท้องถิ่นว่า อบจ.นครพนม มีนายก อบจ.ฯหญิง และ ส.อบจ.นครพนม มีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทยอยู่ในสถานที่เดียวกัน อย่างที่ไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน