นครพนม – ไฟฟ้าลัดวงจรพรึ่บเดียว บ้าน 9 หลังกลายเป็นทะเลเพลิง สุดรันทดเหลือเพียงเสื้อผ้าติดกาย หน่วยงานเร่งช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน
วันที่ 23 มีนาคม 2564 เวลา 23.30 น. พ.ต.ท.เพ็ชร กิจพฤกษ์ สารวัตรสอบสวน สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านในพื้นที่บ้านหนองผือ หมู่ 16 ต.บ้านเอื้อง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีความเสียหายหลายหลัง จึงพร้อมฝ่ายปกครองอำเภอศรีสงครามนำโดย นายปรัชญา เสริฐลือชา นายอำเภอศรีสงคราม ประสานเจ้าหน้าที่จากงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ร่วม 10 คัน ระดมรถน้ำดับเพลิงเข้าควบคุมเพลิง โดยในที่เกิดเหตุพบเป็นชุมชน สภาพสร้างเรียงติดกันส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้สองชั้น หรือครึ่งปูนครึ่งไม้ ไฟครุโชนโหมไหม้ และลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสภาพบ้านเป็นไม้เก่า จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และอยู่ในชุมชนแออัดเป็นอุปสรรคในการนำรถดับเพลิงเข้าไปควบคุมเหตุ ใช้เวลานานนับชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สภาพบ้านเรือนถูกเพลิงลุกลามไหม้เสียหายเป็นตอตะโก ทั้งหมดรวม 9 หลัง ทรัพย์สินของมีค่า เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ ยุ้งฉางข้าวถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐาน ประกอบการดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่ามาจากสาเหตุไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะได้สอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4 -5 ล้านบาท ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดูแลช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และการสอบถามผู้พบเห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิดดังขึ้นจากบ้านของนายจุด ไชยกา อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 109 หมู่ 16 ซึ่งอาศัยอยู่กันสองคนกับภรรยา เมื่อเกิดเปลวไฟสองตายายก็ต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด เพลิงจึงลุกไหม้ลามไปยังบ้านข้างเคียง แม้ชาวบ้านจะช่วยกันหาน้ำมาสาดดับไฟ แต่ไม่สามารถควบคุมได้ เพราะเป็นบ้านไม้เก่า จึงลุกลามอย่างรวดเร็ว ก่อนเจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงมาควบคุม แต่ไฟได้ลุกลามรวดเร็วเสียหายถึง 9 หลังคาเรือน
ด้านนางบุญนา อินทริง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 16 หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขณะกำลังนอนหลับตนได้ยินเสียงเพื่อนบ้าน เรียกขอความช่วยเหลือ และช่วยกันดับไฟ จึงวิ่งออกมาดูพบไฟกำลังลุกไหม้บ้านอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถนำทรัพย์สินของมีค่าออกจากบ้านได้ เหลือเพียงเสื้อผ้าติดกายเท่านั้น ที่สำคัญมีเงินสดอีกจำนวน 60,000 บาท ซึ่งได้มาจากการสะสมสร้อยคอทองคำ แต่พอช่วงราคาทองคำมีราคาสูง จึงนำไปขายเพื่อจะเอามาลงทุนทำการเกษตร สุดท้ายวอดไปกับกองเพลิง รวมถึงทรัพย์สินของมีค่าอีกจำนวนหนึ่ง
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: