นครพนม – กองโลจิสติกส์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมจัดกิจกรรมสัมมนาเปิดโครงการ workshop สัญจร เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและ SMEs ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตให้ก้าวไปสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0
วันที่ 26 มีนาคม 2564 ณห้องประชุมไอฮอล์1 โรงแรมไอโฮเท็ล จังหวัดนครพนม กองโลจิสติกส์กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เชิญผู้ประกอบการในจังหวัดนครพนมเข้าร่วมสัมมนากิจกรรม workshop สัญจร ขยายผลความรู้ด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ภาคอุตสาหกรรม จังหวัดนครพนม เพื่อให้ความรู้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ พร้อมทั้งแนะนำโปรแกรมระบบงานด้วยโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการได้มีความรู้และความพร้อมในการนำระบบไอทีมาใช้ ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการแล้วยังช่วยให้เกิดการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ (Logisticscost) ได้แก่
1.โปรแกรมด้านบริหารจัดการ (Admin) เช่นระบบบริหารการวางแผนทรัพยากรองค์กร (Enterprise Resource Planning: ERP) , ระบบบริหารทรัพยากรในการผลิต (Material Resource Planning: MRP)
2.โปรแกรมด้านสินค้าคงคลัง (Inventory) เช่นระบบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management System: IMS) ระบบบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System: WMS) ฯลฯ
3.โปรแกรมด้านการขนส่ง (Transport) เช่น ระบบบริหารการขนส่ง (Transport Management System: TMS) , ระบบบริหารการขนส่งเที่ยวกลับ (Backhauling Management system: BMS) ฯลฯ
โดยมีผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิที่ประสบความสำเร็จด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ อาทิ นางสาวชลาริน นิลพิฤกษ์ ผู้อำนวยการกองโลจิสติกส์ ,รองศาสตราจารย์สำรวจ อินแบน ที่ปรึกษาปลัดกระทร วงอุตสาหกรรม , ว่าที่ร้อยตรีหญิง ธนิสรา บุตรสิงห์ขรณ์ อาจารย์สาขาอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยนครพนม และ นายมงคล ตันสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายชาญชัย อนุสรณ์ อุตสาหกรรมจังหวัดนครพนม ประธานการเปิดสัมมนา”กิจกรรม Workshop สัญจรขยายผลความรู้ด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนภาคอุตสาหกรรมสู่ภูมิภาค จ.นครพนม” กล่าวว่า
“ในปัจจุบันผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ต่างก็ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือสนับสนุนแทบทั้งสิ้น แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ยังไม่ได้นำโปรแกรมระบบงานด้านโลจิสติกส์และโซ่อุปทานมาใช้ เนื่องจากยังขาดความเข้าใจและความพร้อมในการใช้ระบบดังกล่าว ดังนั้นจึงมีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่กิจกรรมนี้จะมุ่งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความรู้และความพร้อมในการนำระบบไอทีดังกล่าวมาใช้ โดยกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยกิจกรรมย่อย คือ
1. Public workshop ซึ่งจะมีกิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการจำนวน 3 วัน
2.In-House Workshop จะมีการส่งผู้เชี่ยวชาญด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและด้านโลจิสติกส์ ไปให้คำปรึกษาเชิงลึก ณสถานประกอบการเป็นจำนวน 3 ครั้ง
จึงอยากขอเชิญชวนสถานประกอบการให้เข้าร่วมกิจกรรมนี้เพื่อประโยชน์แก่สถานประกอบการของท่านเองในการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าภาคเอกชนและภาครัฐจะสามารถผนึกกำลังกันผลักดันการประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการโลจิสติกส์ให้ประสบผลสำเร็จ เพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรม”
