นครพนม – เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเวทีนำความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม เดินหน้าช่วยชาวสวนแก้ปัญหาลิ้นจี่ไม่ติดดอก
วันนี้ (1 เม.ย. 64) เวลา 13.30 น. ณ ศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดกิจกรรมการจัดเวทีเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ภายใต้โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนม และกิจกรรมส่งเสริมการผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ให้ได้คุณภาพ พร้อมเพิ่มผลผลิตด้วยงานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาลิ้นจี่ นพ.1 ไม่ติดดอก การจัดกิจกรรมในครั้งนี้นั้นเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และนำความรู้ด้านงานวิจัยมาช่วยเพิ่มคุณภาพของผลผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งงานนี้มีเกษตรกรที่ให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 120 คน
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- ฝ่ายปกครอง อ.ปลาปากสนธิกำลังตร .บุกรวบหนุ่ม 20 ขาใหญ่ จำหน่ายยาบ้า โดดหลังบ้าน คว้ามีดพร้าเปิดทาง หลบหนีไปไม่รอด
- "นครพนมฮือฮา! งานศพสุดแปลก ใส่ชุดแดงฟ้อนรำส่งดวงวิญญาณ ‘เจ้แข่น’ ปิดตำนานสาวสองแห่งอำเภอนาทม
- น้องขวัญ นายก อบจ.นครพนม ลาออก ก่อนครบวาระ 3 วัน จ่อลงชิงป้องกันแชมป์
ทางด้านนางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า “จังหวัดนครพนม มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและได้รับการขึ้นทะเบียนพืช GI จำนวน 2 ชนิด คือ สับปะรด GI ท่าอุเทน และลิ้นจี่ นพ.1 สำหรับหรับลิ้นจี่ นพ.1 จะมีลักษณะที่ไม่เหมือนลิ้นจี่จากที่อื่น มีความโดดเด่น คือ มีผลขนาดใหญ่ เปลือกสีแดงอมชมพู และรูปทรงเหมือนไข่ เนื้อผลแห้งสีขาวขุ่น รสชาติหวานอมเปรี้ยว ไม่มีรสฝาด โดยได้ได้ขอขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา และได้มาซึ่งตราสัญลักษณ์ GI ไทย เป็นสินค้าเกษตรที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งการผลิตลิ้นจี่ นพ.1 นั้นการให้ผลผลิตของลิ้นจี่จะประสบปัญหา คือ การไม่ติดดอกของต้นลิ้นจี่ในบางปี ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ สภาพแวดล้อม เช่น สภาพดิน น้ำ อากาศ โดยเฉพาะสภาพภูมิอากาศ ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลิ้นจี่นั้นเกิดการติดดอก แต่เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศไม่สามารถควบคุมได้ จึงทำให้ในเฉพาะบางปีลิ้นจี่ไม่มีการติดดอก ส่งผลให้เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่ นพ.1 ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่มีผลผลิตที่จะจำหน่ายออกสู่ตลาดและมีต้นทุนการผลิตที่จะต้องแบกรับ ทำให้สูญเสียโอกาสและรายได้ในการจำหน่ายผลผลิตไป
และการจัดกิจกรรมในวันนี้ เน้นในส่วนของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในแบบที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความรู้ด้านวิชาการ จากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ และกลุ่มเกษตรกรโดยตรง ซึ่งจะได้นำความรู้ด้านงานวิจัยมาปรับใช้ในกระบวนการผลิตลิ้นจี่ นพ.1 เพื่อที่จะเพิ่มคุณภาพ เพิ่มผลผลิต และแก้ไขปัญหาที่เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกับช่วยเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการแข่งขันกับสินค้าเกษตรในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างเข็มแข็ง ทำให้เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่มีอาชีพ รวมถึงรายได้ที่มั่นคง เกิดการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น และเทคโนโลยีนวัตกรรม ไปสู่การลดต้นทุนการผลิต ทำให้ผลผลิตลิ้นจี่ นพ.1 เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคมากขึ้น และยังสามารถสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัดนครพนมได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: