จากกรณี เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 เวลา 01.45 น. พ.ต.ท.สมจิตร เบ็ญเจิด สว.(สอบสวน)ส.ภ.เมืองสกลนคร พนักงานสอบสวนเวร ได้รับแจ้งเหตุจราจร รถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิด บริเวณสี่แยกบ้านธาตุนาเวง ถนนนิตโย ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร จึงพร้อมด้วยพวกออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กอ 779 อุดรธานี สภาพเสียหายหนักบริเวณตัวถังส่วนหน้า พ.อ.อ.ธีรศักดิ์ ศรีทอง อายุ 49 ปี หมู่ที่ 19 ซอยบ้านศรีเจริญสุข ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี แสดงตนเป็นผู้ซับขี่ โดยมีรถจักรยานยนต์ คันหมายเลขทะเบียน 1 กศ 4224 สกลนคร สภาพเสียหายทั้งคัน ผู้ที่มากับรถจักรยานยนต์รายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสอบสวนทราบชื่อ น.ส.จันจิรา หงษ์ภู อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 101 หมู่ที่ 17 ต.กุดบาก อ.กุดบาก จ.สกลนคร ถูกนำตัวส่งสถานพยาบาลเพื่อรักษา
ในที่เกิดเหตุพบผู้มากับรถจักรยานยนต์อีกสองรายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สอบสวนทราบชื่อ น.ส.ณัฐพร หดทะเสน อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 179 หมู่ที่ 10 ต.นาตงวัฒนา อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร และ น.ส.กันยารัตน์ รัตนะ อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 53 หมู่ที่ 7 บ.จอมศรี ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม จึงนำส่งแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์สกลนครซันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตจากเหตุทั้งสอง รับเรื่องไว้สอบสวนตามสำนวนชันสูตรพลิกศพ แล้วมอบศพให้โรงพยาบาลศูนย์สกลนคร เก็บรักษาเพื่อรอญาติรับไปจัดการตามประเพณี จากการสอบสวนยังไม่ทราบเหตุที่รถทั้งสองคันโดนหรือเฉี่ยวชนกันที่แน่ชัด จึงบันทึกการตรวจ ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
ความคืบหน้าของเรื่องนี้ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 เมษายน 2564 ที่งานศพ น.ส.กันยารัตน์ รัตนะ 1 ในผู้เสียชีวิต บรรยากาศในงานท่ามกลางความโศกเศร้ามีเสียงร่ำไห้ระงม โดยนางบรรจง รัตนะ มารดาน้อง บอกว่า คิดถึง รักมากลูกสาวคนนี้มาก เป็นไปได้ไม่อยากได้เงินอยากได้ลูกสาวกลับคืนมาให้เงินมาเป็นล้านก็ไม่ยอมถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม คนที่ขับรถชนไม่มารับผิดชอบก็ให้มาเห็นหน้าไม่มาเลยใจดำเกินไป ซึ่งลูกสาวคนนี้เป็นความหวังของครอบครัวเรียนปี 3 มาด่วนจากไป อยากให้ผู้ที่ก่อเหตุออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเกิดด้วยสิ่งไหนก็แล้วแต่ต้องออกมาแสดงตัวตนถึงการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าอยากได้เงินได้ทอง เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องรับให้ได้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้คลิปหน้ารถของ ด.ต.รัตนะ ตรีโอษฐ์ ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองสกลนคร ซึ่งในวันเกิดเหตุมาจอดรถติดไฟแดงในที่เกิดเหตุ และกล้องหน้ารถบันทึกภาพไว้ได้ เป็นภาพขณะที่น้องที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ กำลังเคลื่อนรถออกมาเพราะได้สัญญานไฟเขียวและจะกลับหอพัก เป็นจังหวะเดียวกับที่ รถเก๋งสีขาวขับมาจากทาง จ.นครพนม ด้วยความเร็วสูง ไม่มีการเบรกจนกระเด็นกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง และรถเก๋งขาวได้ไปหยุดที่สะพานห่างออกไปจากจุกชนราว 100 เมตร ขณะนั้นเกิดชุลมุน เพื่อนๆมามุงดูเต็มไปหมด ไม่ทราบคู่กรณีหลบหนีไปเมื่อใด
